SSP คว้าโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT รวม 170.5 MW มุ่งสู่ธุรกิจไฟฟ้า Renewable เต็มรูปแบบ-ลุยธุรกิจใหม่ สร้าง New S-curve - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2566

SSP คว้าโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT รวม 170.5 MW มุ่งสู่ธุรกิจไฟฟ้า Renewable เต็มรูปแบบ-ลุยธุรกิจใหม่ สร้าง New S-curve



 บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) สุดเจ๋ง! คว้างานประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) จำนวน 170.5 เมกะวัตต์ เดินหน้าโรงไฟฟ้า Renewable เต็มรูปแบบ วางเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าในพอร์ตอีก ปี โตเท่าตัว บิ๊กบอส “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” เตรียมลุยธุรกิจใหม่ สร้าง New S-curve สนับสนุนผลงานเติบโตก้าวกระโดด 

 

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เปิดเผยว่า บริษัทฯชนะประมูลในโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT)  รวม 170.5 เมกะวัตต์ แบ่งออกเป็น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 7 โครงการ กำลังผลิตตามสัญญารวม 154.5 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม จำนวน 2 โครงการ กำลังผลิตตามสัญญารวม 16 เมกะวัตต์   ซึ่งมั่นใจว่าจากแผนการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ จะช่วยสนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องตามแผนงานที่วางไว้ 

 

จากความสำเร็จจากการชนะประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) จำนวน 170.5 เมกะวัตต์ ดังกล่าว เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ  โดยจะมุ่งขยายการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังทดแทนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง บริษัทฯกำลังศึกษาและเตรียมความพร้อม สำหรับเข้าประมูลการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมตามที่กกพ.ได้ประกาศออกมา ประกอบด้วย พลังงานแสงอาทิตย์ 2,632 เมกะวัตต์ พลังงานลม 1,000 เมกะวัตต์ ก๊าซชีวภาพ (น้ำเสีย/ของเสีย) 6.5 เมกะวัตต์ และขยะอุตสาหกรรม 30 เมกะวัตต์ คิดเป็นปริมาณรับซื้อเพิ่มเติมรวม 3,668.5 เมกะวัตต์ เพื่อขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดประเภทอื่นๆ  

 

ส่วนแนวโน้มรายได้ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง เทียบปีที่ผ่านมา และความคืบหน้าในการลงทุนในช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้จัดตั้งบริษัทลงทุน Sermsang Next Ventures เพื่อดำเนินธุรกิจใหม่ โดยเข้าไปลงทุนในธุรกิจที่จะเติบโต ซึ่งจะช่วยสร้าง New S-curve สนับสนุนผลงานโตก้าวกระโดดในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทฯ มองหาโอกาสเพื่อเข้าไปลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆทั้งในประเทศ และต่างประเทศได้แก่ ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน  ที่จะทำให้พอร์ตกำลังผลิตเติบโตแบบก้าวกระโดด 

 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทฯมีฐานะทางการเงินที่มีความแข็งแกร่ง รองรับแผนการขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบ โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เปิดดำเนินงานแล้ว 236 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าหมายในอีก ปี มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็นเท่าตัวทะลุ 500 เมกะวัตต์ โดยมีสัดส่วนจากแหล่งพลังงานใหม่ๆ เช่น พลังงานลม หรือ ชีวมวล เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad