วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิด 5 ปัจจัยที่ต้องจับตาสำหรั บตลาดทองคำในปี 2563 อันดับ 1 สงครามการค้าจีน-สหรัฐ 2 นโยบายการเงินแบงก์ชาติทั่วโลก 3 ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ 4 เศรษฐกิจสหรัฐยังเสี่ยงถดถอย และ 5 แรงซื้อทองคำจากนักเก็งกำไร ธนาคารกลางและกองทุน SPDR คาดทั้ง 5 ปัจจัยยังส่งสัญญาณบวกต่อทอง แต่ยังต้องจับตาใกล้ชิด มองกรอบ 19,850-23,000 บาทต่อบาททองคำ เน้นกลยุทธ์เล่นสั้น แนะเพิ่มสัดส่วนทองเป็น 15% เพื่อกระจายความเสี่ยงพอร์ตลงทุ น
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ในปี 2563 จะเป็นอีกปีหนึ่งที่ทองคำยั งคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่ อเนื่องมาจากปี 2562 มองระยะยาวราคายังเคลื่ อนไหวในทิศทางขาขึ้น คาดมีกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ ระหว่าง 1,390 – 1,616 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 19,850-23,100 บาทต่อบาททองคำ โดยมีแนวรับบริเวณ 1,445-1,390 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 20,600-19,850 บาทต่อบาททองคำได้ และยังมีโอกาสที่ ราคาจะทดสอบระดับสูงสุดของปี 2562 บริเวณ 1,557-1,535 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 22,250-21,900 บาทต่อบาททองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากราคาทะลุผ่ านแนวต้านดังกล่าวได้อย่างแข็ งแกร่ง จะเพิ่มโอกาสที่ราคาทองคำจะขยั บขึ้นต่อเพื่อทดสอบระดับ 1,603-1,616 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 22,900-23,100 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. ปี 2013 และกรอบราคาทองคำด้านบนที่ YLG ประเมินไว้
สำหรับปัจจัยสนับสนุ นการคาดการณ์เชิงบวกต่ อราคาทองคำในปี 2563 YLG ได้ประเมินไว้ 5 ปัจจัย ได้แก่
1.สงครามการค้าระหว่างจี นและสหรัฐที่ยังมีแนวโน้มยืดเยื้ อ และยังเต็มไปด้วยความผันผวนซึ่ งจะความต้องการทองคำที่อยู่ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
2. ธนาคารกลางทั่ วโลกโดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ( เฟด) จะเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงิ นต่อเนื่อง นอกจากนี้กรรมการเฟดผู้มีสิทธิ ลงคะแนนเสียงเพื่ อกำหนดนโยบายการเงินในปี 2563 จะมีมุมมองสายเหยี่ยวที่แข็งกร้ าวลดลงจากปี 2562 จึงยิ่งเสริมโอกาสที่เฟดจะยั งคงจุดยืนของการดำเนิ นนโยบายการเงินในเชิงผ่อนคลาย นั่นช่วยลดต้นทุนค่าเสี ยโอกาสในการถือครองทองคำซึ่งเป็ นสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย
3. ความขัดแย้งในประเทศต่างๆ เช่นตะวันออกกลางที่ยังไม่น่ าจะคลี่คลายในระยะเวลาอันใกล้ ส่วนสถานการณ์ Brexit ก็ยังมีความคลุมเครือ บวกรวมกับเกาหลีเหนือที่ออกมาขู่ ว่าจะกลับเดินหน้าทำการทดลองนิ วเคลียร์และทดสอบขีปนาวุธข้ ามทวีป(ICBM) ไม่เพียงเท่านั้น การเมืองสหรัฐกำลังเผชิญกั บความปั่นป่วนหลังจากประธานาธิ บดีโดนัลด์ ทรัมป์เผชิญกับกระบวนการถอดถอน( Impeachment) ขณะที่ปี 2563 จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี สหรัฐในเดือน พ.ย. อีกด้วยซึ่งความไม่แน่นอนเหล่ านี้จะเป็นปัจจัยหนุนความต้ องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ ปลอดภัยเช่นกัน
4 ความวิตกเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิ จถดถอยจะลดลง โดยความเสี่ยงยังคงอยู่เนื่ องจากการเกิดกราฟอั ตราผลตอบแทนกลับหัว (Inverted Yield Curve) ระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรั ฐบาลสหรัฐอายุ 3 เดือนและอัตราผลตอบแทนพันธบั ตรอายุ 10 ปีในปี 2562 ถือว่านานมากพอที่จะเป็นสั ญญาณถดถอย
5 ธนาคารกลางและกองทุนเข้าซื้ อทองคำ หากเศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกั บสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจจริ งจะกระตุ้นให้ธนาคารกลางทั่ วโลกยิ่งต้องดำเนินนโยบายการเงิ นแบบผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นซึ่ งจะเพิ่มโอกาสที่ทองคำจะทะยานขึ้ นอย่างมาก เสริมด้วยแรงซื้ อทองคำจากภาคธนาคารกลางที่มี แนวโน้มจะดำเนินไปต่อในปี 2563 ส่วนกองทุน SPDR คาดว่าจะยังคงถือครองทองคำเพิ่ มขึ้นหลังจากปี 2562 มีการถือครองทองคำเพิ่มมากกว่า 100 ตัน ขณะเดียวกันแรงเก็งกำไรในทิ ศทางบวกสำหรับสัญญาฟิวเจอร์ สทองคำตลาด COMEX ยังคงหนาแน่น ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดจึงถื อเป็นปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ ในเชิงบวกของราคาทองคำจาก YLG อย่างไรก็ดี นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ต่ างๆอย่างใกล้ชิด และยังคงยกให้สงครามการค้าจีน- สหรัฐเป็นไฮต์ไลท์หลักของปี 2563
ส่วนกลยุทธ์การลงทุนที่ เหมาะสมกับปี 2563 คือ การเน้นทำกำไรระยะสั้นตามแนวโน้ มหลักของราคาทองคำ และตั้งจุดขาดทุนประกอบการลงทุ นทุกครั้ง พร้อมติดตามข่าวสารและประเมินปั จจัยต่างๆเป็นระยะเพื่อปรับกลยุ ทธ์การลงทุนให้ทันสถานการณ์ รวมถึงพิจารณาใช้ประโยชน์ ของทองคำในการกระจายความเสี่ ยงของพอร์ตลงทุน โดยแนะนำถือครองทองคำในสัดส่วน 15% เพื่อกระจายความเสี่ยงท่ ามกลางความเสี่ยงทางการเมื องและเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้ นในปี 2563 ขณะที่บริหารความเสี่ยงอันเนื่ องมาจากการเคลื่อนไหวของค่าเงิ นบาทด้วยการใช้สัญญาดอลลาร์ฯล่ วงหน้า หรือ พิจารณาเลือกการลงทุนทองคำที่ตั ดความเสี่ยงเรื่องค่าเงิน อาทิ TFEX Gold Online Futures
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น