กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดสำนักงานแห่งแรกในต่างประเทศ ที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2561

กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดสำนักงานแห่งแรกในต่างประเทศ ที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม


กรุงเทพฯ (3 ธันวาคม 2561) เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มธุรกิจ TCP ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้          แบรนด์กระทิงแดง (เรดบูล) เรดดี้ โสมพลัส สปอนเซอร์ แมนซั่ม เพียวริคุ ซันสแนค และวอริเออร์ ได้เปิดสำนักงานต่างประเทศแห่งแรกที่กลุ่มธุรกิจ TCP ถือหุ้น 100% ณ ประเทศเวียดนาม พร้อมประกาศแผนธุรกิจ 3 ปีของ TCP ในเวียดนาม (บริษัท TCPVN จำกัด) ด้วยการลงทุนเพิ่ม 4,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับ TCPVN ใน 3 ส่วนหลัก คือ การเสริมสร้างขีดความสามารถของทีมงานวิจัยตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น  การบริหารจัดการด้านการตลาดและการขายด้วยทีมงานมืออาชีพระดับโลก และการบริหารจัดการช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมและทันสมัย พร้อมตั้งเป้าเพิ่มยอดขายในเวียดนามเพิ่มขึ้นเท่าตัวใน 3 ปี โดยคาดว่าส่วนแบ่งการตลาดของทุกแบรนด์ในเวียดนามจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% และมีผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างน้อย 1 แบรนด์ออกจำหน่าย ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังอย่างแท้จริง

นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า “การเปิดบริษัท TCPVN ขึ้นที่เวียดนามนี้ เป็นบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นของกลุ่มธุรกิจ TCP ที่ต้องการเป็นองค์กรธุรกิจที่สามารถนำความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศไทยในเวทีโลก ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มที่เป็นแบรนด์ไทยที่สร้างชื่อเสียง และได้รับการยอมรับในระดับโลก การเปิดสำนักงานที่เวียดนามนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนธุรกิจ 5 ปี ที่ได้ประกาศไว้เมื่อปี 2560 ที่มุ่งสร้างยอดขายของกลุ่มโตขึ้น 3 เท่าเป็น 100,000 ล้านบาท



นายวัสนัย กฤษอร่ามเรือง ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจต่างประเทศ กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า “บริษัท TCPVN จำกัด เป็นบริษัทแรกในต่างประเทศที่กลุ่มธุรกิจ TCP ถือหุ้น 100% โดยจะเป็นบริษัทที่มีบทบาทสำคัญในการร่วมกำหนดทิศทางการเติบโต และการขยายตลาดในเวียดนาม การเลือกมาเปิดสำนักงานที่เวียดนาม เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่ มีศักยภาพสูง และมีโอกาสที่ตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มจะเติบโตอีกมาก เนื่องจาก

1.     ไลฟ์สไตล์ของคนเวียดนามจะนิยมบริโภคเครื่องดื่มชูกำลังเพื่อใช้ในการดับกระหาย รวมถึงใช้บริโภคควบคู่ไปพร้อมกับมื้ออาหาร ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการบริโภคของคนที่ทำงานหนัก และต้องการพลังงานจากเครื่องดื่มชูกำลังมาช่วยเสริม
2.     ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของเวียดนาม มีศักยภาพที่จะเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จากปัจจุบันที่เป็นที่สองรองจากประเทศจีนเท่านั้น
3.     ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มธุรกิจ TCP ที่มีจำหน่ายอยู่แล้วมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องกว่า 25% ซึ่งเป็นการเติบโตที่มากกว่าตลาดรวม
4.     ตลาดเวียดนามจะให้ความไว้วางใจกับสินค้าที่มีคุณภาพ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเราเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกทั้งในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม พรีเมี่ยม ซึ่งสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับกลุ่มธุรกิจ TCP ในการนำผลิตภัณฑ์คุณภาพอื่นๆ เข้าสู่ตลาดเวียดนาม
5.     นอกจากนั้น กลุ่มธุรกิจ TCP ยังมีรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยมีแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในตลาดเวียดนามมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี


เสริมสร้างศักยภาพของทีมงานวิจัยตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์

นายสราวุฒิ กล่าวว่า “เราจะมุ่งมั่นพัฒนาบุคคลากร และเทคโนโลยีให้ทันสมัย เพื่อเพิ่มศักยภาพของทีมงาน TCPVN ให้เป็นหน่วยธุรกิจที่เชี่ยวชาญข้อมูลเชิงลึก ที่มีความเข้าใจพฤติกรรมการบริโภค ไลฟ์สไตล์ และวิถีชุมชนของคนเวียดนามอย่างดีที่สุด เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ปรับปรุง หรือพัฒนาให้    แบรนด์ของเราที่มีจำหน่ายอยู่แล้วในท้องตลาดมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสให้มีการคิดค้น พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะตลาดได้ดีขึ้น เพื่อทำให้กลุ่มธุรกิจ TCP เป็น เฮ้าส์ออฟแบรนด์ที่ทรงพลังและแข็งแกร่ง โดยตั้งเป้าว่าในอีก 3 ปี เราจะมีสินค้าใหม่อย่างน้อย 1 แบรนด์วางจำหน่ายในตลาดเวียดนาม ซึ่งอาจจะเป็นสินค้าใหม่ที่คิดค้นเพื่อคนในท้องถิ่น หรืออาจจะเป็นแบรนด์ที่มีอยู่แล้ว และนำมาจำหน่ายก็ได้


นายสราวุฒิ กล่าวเสริมว่า “เครื่องดื่มชูกำลังอัดลมแบรนด์ “วอริเออร์” เป็นความภูมิใจของเรา และทีมงานตลาดต่างประเทศทุกคน เพราะถือว่าเป็นแบรนด์ใหม่ที่คนไทยสร้างขึ้นมาเพื่อตลาดเวียดนาม          ที่สามารถฝ่าฟัน เอาชนะการแข่งขันที่รุนแรงของตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มในตลาดได้ วอริเออร์ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของทีมงานวิจัยตลาดที่เข้าถึงพฤติกรรมการบริโภคของคนเวียดนามอย่างลึกซึ้ง โดยเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เราพบว่ายังมีผู้บริโภคชาวเวียดนามที่ต้องการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังที่ยังคงให้ความรู้สึกเหมือนดื่มน้ำอัดลม เราจึงได้วิจัยและพัฒนาจนออกมาเป็นเครื่องดื่มชูกำลังอัดลมแบรนด์วอริเออร์ และได้นำออกมาวางจำหน่ายในปี 2558  ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี มียอดขายเติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยคาดว่ายอดขาย ณ สิ้นปี 2561 จะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึงเท่าตัว”

มุ่งมั่นบริหารจัดการด้านการตลาดและการขายอย่างเต็มประสิทธิภาพ

TCPVN ยังมีบทบาทในการบริหารจัดการด้านการตลาดและการขาย ด้วยทีมงานการตลาดมืออาชีพซึ่งเป็นคนเวียดนามที่มีประสบการณ์การทำงานกับบริษัทระดับนานาชาติ โดยจะทำงานผสานกับทีมบริหารของ TCP Group ที่เคยผ่านการทำงานระดับโลก เพื่อนำเอาทักษะที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้ในการสร้างความเจริญให้กับบริษัทของคนไทยและแบรนด์ไทย ทักษะเหล่านี้เมื่อผสานเข้ากับผลงานยอดเยี่ยมของทีมงาน TCPVN ก็จะยิ่งช่วยเสริมสร้างให้ระบบการทำงานด้านการตลาดมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นนายสราวุฒิ กล่าว

“เราหวังว่า TCPVN จะมีส่วนช่วยพัฒนาและผลักดันให้มูลค่าตลาดรวมของเครื่องดื่มพร้อมดื่มในเวียดนามสูงขึ้นเป็นอันดับที่สอง หรือใกล้เคียงกับตลาดน้ำอัดลม” นายสราวุฒิ กล่าว


เพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการช่องทางการจัดจำหน่าย

“นอกจากนั้น TCPVN ยังมีบทบาทในการบริหารจัดการระบบการจัดจำหน่าย เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น และครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น รวมถึงการแสวงหาช่องทางสมัยใหม่ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างสะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้แผนการลงทุนของเราใน 3 ปีข้างหน้า จะช่วยพัฒนาขีดความสามารถของทีมงาน TCPVN ให้ทัดเทียมบริษัทในระดับนานาชาติด้วยโนว์-ฮาว และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองต่อรูปแบบการดำเนินธุรกิจ และการตลาดยุคใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และบริการให้ดียิ่งขึ้นกับลูกค้าของเรา” นายสราวุฒิ กล่าว

สำหรับยอดขายสินค้าของกลุ่มธุรกิจ TCP ในตลาดเวียดนาม คาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะมียอดขายรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งการตลาดรวมทุกแบรนด์ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังราว 42%

ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของกลุ่มธุรกิจ TCP ได้ที่ www.tcp.com

ข้อมูลการตลาด


ข้อมูล

ประเทศเวียดนาม

ประเทศไทย

จำนวนประชากร
96 ล้านคน
69 ล้านคน
ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP)
-          2560

-          2561 (เติบโตประมาณ)

223.9 พันล้าน
(เหรียญสหรัฐ)
6.8%

455.2 พันล้าน            (เหรียญสหรัฐ)
3.9%
ตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่ม (RTD)
-          มูลค่าตลาดรวม

1 แสนล้านบาท

2.3 แสนล้านบาท*
ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง (Energy Drink)
-          มูลค่าตลาดรวม
-          อัตราการเติบโต

25,000 ล้านบาท
6%
    
     23,000 ล้านบาท
คงที่
*รวบรวมข้อมูลโดยกลุ่มธุรกิจ TCP

  • ยอดขายสินค้าของกลุ่มธุรกิจ TCP ในเวียดนาม (รวมทุกแบรนด์) สิ้นปี 2561 คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 10,000 ล้านบาท

  • และภายใน 3 ปีข้างหน้า คาดว่ายอดขายสินค้าของกลุ่มธุรกิจ TCP ในเวียดนามจะเพิ่มขึ้น      อีกเท่าตัว

  • ส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของกลุ่มธุรกิจ TCP ในเวียดนาม (รวมทุกแบรนด์) ประมาณ 42%                     





ข้อมูลกลุ่มธุรกิจ TCP
กลุ่มธุรกิจ TCP ประกอบด้วยบริษัท ที.ซี. ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าของกลุ่ม บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด รับผิดชอบในการทำตลาดและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม บริษัท ที.จี. เวนดิ้ง แอนด์ โชว์เคส อินดัสทรีส์ จำกัด เป็นเจ้าของและบริหารจัดการตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติสำหรับผลิตภัณฑ์ของกลุ่มและแบรนด์อื่นๆ และ บริษัท เดอเบล จำกัด ดูแลการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มและแบรนด์อื่นๆ ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจ TCP มีพนักงานกว่า 5,000 คนในประเทศไทยและทั่วโลก

ผลิตภัณฑ์และแบรนด์ของกลุ่มธุรกิจ TCP ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยและทั่วโลก ประกอบด้วย 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์           รวม 8 แบรนด์ คือ กลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังคือ กระทิงแดง เรดดี้ โสมพลัส และวอริเออร์ กลุ่มเครื่องดื่มเกลือแร่ คือ สปอนเซอร์ กลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริ้งก์ คือ แมนซั่ม กลุ่มเครื่องดื่มชาพร้อมดื่ม คือ เพียวริคุ ผลิตภัณฑ์เมล็ดทานตะวัน คือ ซันสแนค และกลุ่มหัวเชื้อเครื่องดื่ม คือ เรดบูลรสดั้งเดิม


กลุ่มธุรกิจ TCP ผนึกความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนใน 3 มิติคือ Integrity (พันธมิตรธุรกิจยั่งยืนและองค์กรธรรมาภิบาล) Quality (คุณภาพสินค้าและบริการ และคุณภาพชีวิตบุคคลากร) และ Harmony (รักษ์สิ่งแวดล้อม และชุมชนยั่งยืน) เป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนนี้ เพื่อมุ่งยกระดับกลุ่มธุรกิจ TCP เป็นหนึ่งใน บริษัทคนไทยที่ได้รับการชื่นชมที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad