กรุงเทพฯ (3 ธันวาคม 2561)
– เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มธุรกิจ TCP
ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้ แบรนด์กระทิงแดง (เรดบูล) เรดดี้ โสมพลัส
สปอนเซอร์ แมนซั่ม เพียวริคุ ซันสแนค และวอริเออร์ ได้เปิดสำนักงานต่างประเทศแห่งแรกที่กลุ่มธุรกิจ
TCP ถือหุ้น 100% ณ ประเทศเวียดนาม พร้อมประกาศแผนธุรกิจ 3 ปีของ TCP ในเวียดนาม (บริษัท TCPVN จำกัด) ด้วยการลงทุนเพิ่ม 4,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับ TCPVN ใน 3
ส่วนหลัก คือ การเสริมสร้างขีดความสามารถของทีมงานวิจัยตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
การบริหารจัดการด้านการตลาดและการขายด้วยทีมงานมืออาชีพระดับโลก
และการบริหารจัดการช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมและทันสมัย พร้อมตั้งเป้าเพิ่มยอดขายในเวียดนามเพิ่มขึ้นเท่าตัวใน
3 ปี โดยคาดว่าส่วนแบ่งการตลาดของทุกแบรนด์ในเวียดนามจะเพิ่มขึ้นมากกว่า
50% และมีผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างน้อย 1 แบรนด์ออกจำหน่าย ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังอย่างแท้จริง
นายสราวุฒิ
อยู่วิทยา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า “การเปิดบริษัท
TCPVN ขึ้นที่เวียดนามนี้ เป็นบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นของกลุ่มธุรกิจ
TCP ที่ต้องการเป็นองค์กรธุรกิจที่สามารถนำความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศไทยในเวทีโลก
ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มที่เป็นแบรนด์ไทยที่สร้างชื่อเสียง
และได้รับการยอมรับในระดับโลก การเปิดสำนักงานที่เวียดนามนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนธุรกิจ
5 ปี ที่ได้ประกาศไว้เมื่อปี 2560 ที่มุ่งสร้างยอดขายของกลุ่มโตขึ้น
3 เท่าเป็น 100,000 ล้านบาท”
นายวัสนัย
กฤษอร่ามเรือง
ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจต่างประเทศ กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า “’บริษัท TCPVN จำกัด
เป็นบริษัทแรกในต่างประเทศที่กลุ่มธุรกิจ TCP ถือหุ้น 100% โดยจะเป็นบริษัทที่มีบทบาทสำคัญในการร่วมกำหนดทิศทางการเติบโต
และการขยายตลาดในเวียดนาม การเลือกมาเปิดสำนักงานที่เวียดนาม เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่
มีศักยภาพสูง และมีโอกาสที่ตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มจะเติบโตอีกมาก เนื่องจาก
1. ไลฟ์สไตล์ของคนเวียดนามจะนิยมบริโภคเครื่องดื่มชูกำลังเพื่อใช้ในการดับกระหาย
รวมถึงใช้บริโภคควบคู่ไปพร้อมกับมื้ออาหาร ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการบริโภคของคนที่ทำงานหนัก
และต้องการพลังงานจากเครื่องดื่มชูกำลังมาช่วยเสริม
2.
ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของเวียดนาม
มีศักยภาพที่จะเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จากปัจจุบันที่เป็นที่สองรองจากประเทศจีนเท่านั้น
3.
ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มธุรกิจ TCP ที่มีจำหน่ายอยู่แล้วมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องกว่า
25% ซึ่งเป็นการเติบโตที่มากกว่าตลาดรวม
4.
ตลาดเวียดนามจะให้ความไว้วางใจกับสินค้าที่มีคุณภาพ
ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเราเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกทั้งในคุณภาพของผลิตภัณฑ์
และบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม พรีเมี่ยม ซึ่งสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับกลุ่มธุรกิจ
TCP ในการนำผลิตภัณฑ์คุณภาพอื่นๆ เข้าสู่ตลาดเวียดนาม
5. นอกจากนั้น
กลุ่มธุรกิจ TCP
ยังมีรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยมีแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในตลาดเวียดนามมาอย่างยาวนานกว่า
30 ปี
เสริมสร้างศักยภาพของทีมงานวิจัยตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์
นายสราวุฒิ
กล่าวว่า “เราจะมุ่งมั่นพัฒนาบุคคลากร และเทคโนโลยีให้ทันสมัย เพื่อเพิ่มศักยภาพของทีมงาน
TCPVN ให้เป็นหน่วยธุรกิจที่เชี่ยวชาญข้อมูลเชิงลึก ที่มีความเข้าใจพฤติกรรมการบริโภค
ไลฟ์สไตล์ และวิถีชุมชนของคนเวียดนามอย่างดีที่สุด เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ปรับปรุง
หรือพัฒนาให้ แบรนด์ของเราที่มีจำหน่ายอยู่แล้วในท้องตลาดมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสให้มีการคิดค้น พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะตลาดได้ดีขึ้น
เพื่อทำให้กลุ่มธุรกิจ TCP เป็น “เฮ้าส์ออฟแบรนด์”
ที่ทรงพลังและแข็งแกร่ง โดยตั้งเป้าว่าในอีก 3 ปี เราจะมีสินค้าใหม่อย่างน้อย
1 แบรนด์วางจำหน่ายในตลาดเวียดนาม
ซึ่งอาจจะเป็นสินค้าใหม่ที่คิดค้นเพื่อคนในท้องถิ่น
หรืออาจจะเป็นแบรนด์ที่มีอยู่แล้ว และนำมาจำหน่ายก็ได้”
นายสราวุฒิ
กล่าวเสริมว่า “เครื่องดื่มชูกำลังอัดลมแบรนด์ “วอริเออร์” เป็นความภูมิใจของเรา
และทีมงานตลาดต่างประเทศทุกคน เพราะถือว่าเป็นแบรนด์ใหม่ที่คนไทยสร้างขึ้นมาเพื่อตลาดเวียดนาม ที่สามารถฝ่าฟัน
เอาชนะการแข่งขันที่รุนแรงของตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มในตลาดได้ วอริเออร์ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของทีมงานวิจัยตลาดที่เข้าถึงพฤติกรรมการบริโภคของคนเวียดนามอย่างลึกซึ้ง
โดยเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เราพบว่ายังมีผู้บริโภคชาวเวียดนามที่ต้องการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังที่ยังคงให้ความรู้สึกเหมือนดื่มน้ำอัดลม
เราจึงได้วิจัยและพัฒนาจนออกมาเป็นเครื่องดื่มชูกำลังอัดลมแบรนด์วอริเออร์ และได้นำออกมาวางจำหน่ายในปี
2558 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี
มียอดขายเติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยคาดว่ายอดขาย ณ สิ้นปี 2561 จะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึงเท่าตัว”
มุ่งมั่นบริหารจัดการด้านการตลาดและการขายอย่างเต็มประสิทธิภาพ
“TCPVN ยังมีบทบาทในการบริหารจัดการด้านการตลาดและการขาย
ด้วยทีมงานการตลาดมืออาชีพซึ่งเป็นคนเวียดนามที่มีประสบการณ์การทำงานกับบริษัทระดับนานาชาติ
โดยจะทำงานผสานกับทีมบริหารของ TCP Group ที่เคยผ่านการทำงานระดับโลก
เพื่อนำเอาทักษะที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้ในการสร้างความเจริญให้กับบริษัทของคนไทยและแบรนด์ไทย
ทักษะเหล่านี้เมื่อผสานเข้ากับผลงานยอดเยี่ยมของทีมงาน TCPVN
ก็จะยิ่งช่วยเสริมสร้างให้ระบบการทำงานด้านการตลาดมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
นายสราวุฒิ กล่าว
“เราหวังว่า
TCPVN
จะมีส่วนช่วยพัฒนาและผลักดันให้มูลค่าตลาดรวมของเครื่องดื่มพร้อมดื่มในเวียดนามสูงขึ้นเป็นอันดับที่สอง
หรือใกล้เคียงกับตลาดน้ำอัดลม” นายสราวุฒิ กล่าว
เพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการช่องทางการจัดจำหน่าย
“นอกจากนั้น
TCPVN
ยังมีบทบาทในการบริหารจัดการระบบการจัดจำหน่าย
เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น
และครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น รวมถึงการแสวงหาช่องทางสมัยใหม่
เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างสะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้แผนการลงทุนของเราใน
3 ปีข้างหน้า จะช่วยพัฒนาขีดความสามารถของทีมงาน TCPVN ให้ทัดเทียมบริษัทในระดับนานาชาติด้วยโนว์-ฮาว
และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองต่อรูปแบบการดำเนินธุรกิจ และการตลาดยุคใหม่
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และบริการให้ดียิ่งขึ้นกับลูกค้าของเรา” นายสราวุฒิ กล่าว
สำหรับยอดขายสินค้าของกลุ่มธุรกิจ TCP ในตลาดเวียดนาม คาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะมียอดขายรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท
และมีส่วนแบ่งการตลาดรวมทุกแบรนด์ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังราว 42%
ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของกลุ่มธุรกิจ
TCP
ได้ที่ www.tcp.com
ข้อมูลการตลาด
ข้อมูล
|
ประเทศเวียดนาม
|
ประเทศไทย
|
จำนวนประชากร
|
96 ล้านคน
|
69 ล้านคน
|
ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP)
-
2560
-
2561 (เติบโตประมาณ)
|
223.9 พันล้าน
(เหรียญสหรัฐ)
6.8%
|
455.2 พันล้าน
(เหรียญสหรัฐ)
3.9%
|
ตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่ม (RTD)
-
มูลค่าตลาดรวม
|
1 แสนล้านบาท
|
2.3 แสนล้านบาท*
|
ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง (Energy
Drink)
-
มูลค่าตลาดรวม
-
อัตราการเติบโต
|
25,000 ล้านบาท
6%
|
23,000 ล้านบาท
คงที่
|
*รวบรวมข้อมูลโดยกลุ่มธุรกิจ
TCP
- ยอดขายสินค้าของกลุ่มธุรกิจ
TCP ในเวียดนาม (รวมทุกแบรนด์) สิ้นปี 2561 คาดว่าจะมียอดขายประมาณ
10,000 ล้านบาท
- และภายใน 3 ปีข้างหน้า
คาดว่ายอดขายสินค้าของกลุ่มธุรกิจ TCP ในเวียดนามจะเพิ่มขึ้น
อีกเท่าตัว
- ส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของกลุ่มธุรกิจ
TCP ในเวียดนาม (รวมทุกแบรนด์) ประมาณ 42%
ข้อมูลกลุ่มธุรกิจ TCP
กลุ่มธุรกิจ
TCP ประกอบด้วยบริษัท ที.ซี. ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าของกลุ่ม
บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด
รับผิดชอบในการทำตลาดและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม บริษัท ที.จี. เวนดิ้ง แอนด์
โชว์เคส อินดัสทรีส์ จำกัด
เป็นเจ้าของและบริหารจัดการตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติสำหรับผลิตภัณฑ์ของกลุ่มและแบรนด์อื่นๆ
และ บริษัท เดอเบล จำกัด ดูแลการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มและแบรนด์อื่นๆ
ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจ TCP มีพนักงานกว่า 5,000 คนในประเทศไทยและทั่วโลก
ผลิตภัณฑ์และแบรนด์ของกลุ่มธุรกิจ TCP
ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยและทั่วโลก ประกอบด้วย 6
กลุ่มผลิตภัณฑ์ รวม 8 แบรนด์ คือ กลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังคือ กระทิงแดง เรดดี้ โสมพลัส
และวอริเออร์ กลุ่มเครื่องดื่มเกลือแร่ คือ สปอนเซอร์ กลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล
ดริ้งก์ คือ แมนซั่ม กลุ่มเครื่องดื่มชาพร้อมดื่ม คือ เพียวริคุ ผลิตภัณฑ์เมล็ดทานตะวัน
คือ ซันสแนค และกลุ่มหัวเชื้อเครื่องดื่ม คือ เรดบูลรสดั้งเดิม
กลุ่มธุรกิจ
TCP ผนึกความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม
และสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนใน 3
มิติคือ Integrity (พันธมิตรธุรกิจยั่งยืนและองค์กรธรรมาภิบาล)
Quality (คุณภาพสินค้าและบริการ
และคุณภาพชีวิตบุคคลากร) และ Harmony (รักษ์สิ่งแวดล้อม
และชุมชนยั่งยืน) เป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนนี้
เพื่อมุ่งยกระดับกลุ่มธุรกิจ TCP เป็นหนึ่งใน “บริษัทคนไทยที่ได้รับการชื่นชมที่สุด”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น