กรุงเทพ, ประเทศไทย - ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าการศึกษาในประเทศไทยสู่ยุค 'Zoom Boom' การเรียนการสอนส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนโลกไซเบอร์และในห้องเรียนออนไลน์ แต่สำหรับครูและนักเรียนบางกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเกิดจากการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ไม่เสถียร หรือความไม่พร้อมของเครื่องมือ ทำให้การเรียนในห้องเรียนเสมือนจริงไม่สามารถทดแทนการเรียนแบบตัวต่อตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนเกิดเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้
ช่องว่างที่กล่าวมาถือเป็นแรงผลักดันให้ “SAIJAI” หรือ “ใส่ใจ” แพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสออนไลน์ที่รวมบริการดูแลส่งตรงถึงบ้านเอาไว้ในคลิกเดียว นำโดย วิโอน่า จาง อดีตที่ปรึกษาด้านการบริการ ที่หลงใหลการฝึกโยคะเป็นชีวิตจิตใจ จนอยากเปลี่ยนสิ่งที่รักให้เป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในกรุงเทพฯ ด้วยความตั้งใจเดิมที่ต้องการให้ครูสอนโยคะเข้าถึงกลุ่มนักเรียนที่ไม่สามารถเข้าคลาสได้เนื่องจากผลกระทบของการระบาดของไวรัสโควิด-19
มิสจางเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วจากการลองผิดลองถูกในการสอนโยคะทั้งแบบออนไลน์และแบบตัวต่อตัว จนสามารถเชื่อมโยงกับนักเรียนได้มากขึ้น มองเห็นความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของนักเรียนแต่ละคน ผลตอบรับจากการสอนของเธอในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมายังตอกย้ำถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้คนในด้านการพัฒนาตนเอง การเรียนรู้ชีวิต และการสละเวลาจากชีวิตการทำงานที่วุ่นวายเพื่อทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ
มิสจางกล่าวว่า
“โควิด-19 กลายเป็นตัวพลิกเกมแบบไม่คาดคิดของคนรุ่นเรา ผลักดันให้คนเห็นความสำคัญของสมดุลในการทำงาน บ้าน ครอบครัว และสุขภาพ ขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ ในฐานะผู้หญิงที่ทำงานมืออาชีพและเป็นผู้นำองค์กรของธุรกิจสตาร์ทอัพ ฉันเชื่อว่าการหยุดชะงักที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้สร้างโอกาสทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพียงครั้งเดียวในชีวิตสำหรับเราอย่างเท่าเทียมกัน”
การเดินทางของ SAIJAI ในเวลาเพียงหนึ่งปี ได้ก้าวไปสู่การพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้งานได้จริงทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ปัจจุบันมีผู้ให้บริการดูแลมากกว่า 2,000 รายบนแพลตฟอร์ม และลูกค้าที่กลับมาใช้บริการอีก 500 ราย บริการดูแลที่ส่งถึงบ้านไม่ได้มีแค่การสอนพิเศษเท่านั้น แต่รวมถึงแม่บ้าน ดูแลผู้สูงอายุ ดูแลเด็ก คนขับรถ ช่างซ่อมบำรุง และเสริมความงาม
“การระบาดครั้งใหญ่นี้ทำให้วิถีชีวิตที่บ้านในประเทศไทยเปลี่ยนไป คนในครอบครัวหลายช่วงวัยได้กลับมาอยู่ร่วมกัน ชีวิตการทำงานที่ยุ่งเหยิงของคนที่มีครอบครัวหรือคนโสดทั้งที่ต้องเดินทางไปทำงานและคนที่ทำงานที่บ้าน ทำให้การบริการที่จัดสรรตามความต้องการกลายเป็นส่วนประกอบสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทย” มิสจางกล่าวเสริม
หากมองย้อนกลับไปสู่เส้นทางแห่งการเรียนรู้ เด็กในวัยเรียนจำนวนมากกำลังมองหาการเรียนพิเศษในวิชาหลัก ๆ ที่บ้าน เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษา สำหรับผู้ใหญ่เองก็มีความต้องการในการใช้แพลตฟอร์ม SAIJAI มากขึ้น ทั้งการสอนแบบตัวต่อตัวสำหรับวิชาต่าง ๆ เช่น ดนตรี โยคะ การทำสมาธิ หรือการวาดภาพ และสิ่งที่สามารถเติมเต็มชีวิตประจำวันของพวกเขาได้ เพราะการเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดหรือสิ้นสุดแค่ในโรงเรียน
สำหรับมิสจางการทำงานร่วมกับทีมงานหลักขนาดเล็ก และการประสานประสบการณ์การทำงานที่ปรึกษาด้านธุรกิจการลงทุนและบริการ เข้ากับธุรกิจสตาร์ทอัพด้านดิจิทัล ถือเป็นการวางกลยุทธ์แห่งอนาคตที่จะเข้าถึงวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงของคนไทย และแก้ปัญหาผลกระทบหลังจากโควิด-19
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น