SUPER โชว์ผลงานปี 64 ต่อต่อเนื่อง กำไรสุทธิ 2,733 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79% จากปีก่อนกำไร 1,527 ล้านบาท รายได้กว่า 8,531.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.9% จากปีก่อน 6,514.6 ล้านบาท บอร์ดใจดี! เคาะจ่ายปันผล 0.06 บาท/หุ้น ฟากซีอีโอ “จอมทรัพย์ โลจายะ”กางแผนปี 65 พร้อมขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบ -จ่อคว้างานโครงการ Private PPA -SPP Hybrid เพิ่ม พร้อมเล็งโอกาสขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าในอาเซียนเพิ่มความแข็งแกร่ง หนุนผลงานโตก้าวกระโดด สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2564 (สิ้นสุดวันที่ 31
ธันวาคม 2564) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 2,733 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 79 %
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,527
ล้านบาท ขณะที่รายได้รวม 8,530.1 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 30.9
% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
มีรายได้รวม 6,514.6 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ทำให้ผลประกอบการเติบโต เนื่องจากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าในพอร์ตทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 1,586.3 เมกะวัตต์ จากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย รายได้จากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนาม
ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 550 เมกะวัตต์ ที่รับรู้เต็มปี และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมบนบก
(Onshore) ที่ประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 50 เมกะวัตต์ ที่ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ ในช่วงไตรมาส
4/2564 2นอกจากนี้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ
ของโครงการ SEE6 ในจังหวัดพิจิตร ที่รับรู้รายได้เต็มปี จากที่เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์
เมื่อไตรมาส 2/2563 รวมทั้งโครงการต่างๆของกลุ่มบริษัทสนับสนุน
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ
ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดปี 2564 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.006
บาท
รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 164.09 ล้านบาท
โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฎ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record
Date) ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565
“ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ
เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนทั้งในส่วนของรายได้และกำไร เรามุ่งมั่น
และแสวงหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ
ที่มีศักยภาพการเติบโตต่อยอดธุรกิจในปัจจุบัน ประกอบกับแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้
มองหาโอกาสใหม่ๆ นอกเหนือการขยายงานโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆ
และก็จะเห็นโครงการรูปแบบใหม่ๆ ในปีนี้ จึงมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯ
มีความสามารถในการสร้างรายได้ อัตรากำไรเพิ่มขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง” นายจอมทรัพย์กล่าวในที่สุด
นายจอมทรัพย์
กล่าวว่า SUPER ยังคงให้ความสำคัญในการขยายงานโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบ
และการขยายงานรูปแบบใหม่ๆ รวมทั้งเป้าหมายการพัฒนาธุรกิจโรงไฟฟ้าในกลุ่มประเทศอาเซียนในอนาคต
โดยปี 2565 ตั้งเป้าหมายรายได้ก้าวกระโดด โดยตั้งเป้าเติบโต 30 - 35 % จากปี 2564 และกำลังการผลิตรวมให้ไปแตะระดับ 1,900 – 2,000เมกะวัตต์ ภายในปี
2565
ประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม
ทั้งในและต่างประเทศ โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคาร
(โซลาร์รูฟท็อป)และโครงการการขยายงานสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน( Private
PPA )
รวมทั้งโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในแบบ
SPP Hybrid ภายใต้บริษัทย่อย บริษัท ซุปเปอร์ โซล่าร์ ไฮบริด จำกัด ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน
โดยมีปริมาณจำหน่ายไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ขนาด 16 เมกะวัตต์
จากการผลิตไฟฟ้าผสมผสานเชื้อเพลิงระหว่างโซลาร์ฟาร์ม 49 เมกะวัตต์
ระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) ขนาด 136
เมกะวัตต์-ชั่วโมง (MWh) กับไบโอแก๊ส
อีก 1 MW คาดว่าจะเริ่มการก่อสร้าง
และจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในช่วงปลายปี 2565
อีกทั้งตั้งเป้าจะเป็นโรงไฟฟ้าไฮบริดแห่งแรกที่ใหญ่
และทันสมัยที่สุดในระเทศไทยอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น