- 87% ของผู้บริหารในเอเชียแปซิฟิ
กและญี่ปุ่นรู้สึกกดดันที่ต้ องตัดสินใจทางธุรกิจ โดยมีทั้งความเสียใจ รู้สึกผิด หรือยังคลางแคลงใจต่อการตัดสิ นใจของตัวเองในปีที่ผ่านมา - 73% ยอมรับว่าปริมาณข้อมูลที่
มหาศาลและการขาดความเชื่อถื อในข้อมูล ทำให้พวกเขาไม่กล้าตัดสินใจ - 93% เปลี่ยนวิธีการตัดสินใจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กว่า 96% ยังต้องการการสนับสนุนจากข้อมูล
การวิจัย The Decision Dilemma ซึ่งจัดทำโดย ออราเคิล และ เซธ สตีเฟนส์-เดวิโดวิตซ์ (Seth Stephens-Davidowitz) นักเขียนหนังสือติดอันดับขายดี
ภาระการตัดสินใจของเราเพิ่มขึ้
ผู้คนใน JAPAC กำลังถูกครอบงำด้วยปริมาณข้อมู
- ผู้คน 74% กล่าวว่าจำนวนการตัดสินใจที่
พวกเขาทำในแต่ละวันเพิ่มขึ้นเป็ น 10 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และในขณะที่กำลังตัดสินใจเรื่ องเหล่านี้ กว่า 75% ถูกจู่โจมด้วยข้อมูลจากแหล่งต่ างๆ มากกว่าครั้งใดในอดีต - 86% ยอมรับว่าข้อมูลจำนวนมากทำให้
การตัดสินใจทั้งในเรื่องชีวิตส่ วนตัวและการทำงานมีความซับซ้ อนมากขึ้น และ 61% ยอมรับว่าพวกเขาเผชิญกับภาวะที่ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในการตัดสิ นใจ (ไม่รู้ว่าต้องตัดสินใจอย่างไร) มากกว่าหนึ่งครั้งต่อวัน - 33% ไม่ทราบว่าข้อมูลใดหรือแหล่งข้
อมูลใดที่เชื่อถือได้ และ 71% ตัดสินใจไม่ได้เพราะข้อมูลมี จำนวนมหาศาลเกินไป - 89% กล่าวว่าการไม่สามารถตัดสิ
นใจได้ส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิต ทำให้เกิดความวิตกกังวล (37%) พลาดโอกาส (37%) และการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น (35%) - ผลที่ตามมาคือ 92% เปลี่ยนวิธีการตัดสินใจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยในปัจจุบัน 41% รับฟังเฉพาะแหล่งข้อมูลที่
พวกเขาเชื่อถือ และ 31% พึ่งพาความรู้สึกเพียงอย่างเดี ยว
ผู้นำธุรกิจในภูมิภาค JAPAC ต้องการข้อมูลเพื่อมาช่วยสนั
- 87% ของผู้บริหารธุรกิจมีความทุกข์
จากความกดดันในการตัดสินใจ เช่น เสียใจ รู้สึกผิด หรือตั้งคำถามกับการตัดสิ นใจของตนเองในปีที่ผ่านมา และ 90% เชื่อว่าการมีข้อมูลข่าวกรองเพื่ อสนับสนุนการตัดสินใจที่เหมาะสม สามารถสร้างหรือทำลายความสำเร็ จขององค์กรได้เลยทีเดียว - 96% ต้องการการสนับสนุนจากข้อมูล โดยในเชิงอุดมคติ พวกเขาต้องการข้อมูลเพื่อช่
วยให้ ตัดสินใจได้ดีขึ้น (43%) ลดความเสี่ยง (37%) ตัดสินใจได้เร็วขึ้น (40%) ทำเงินได้มากขึ้น (37%) และสามารถวางแผนสำหรับสิ่งที่ ไม่คาดคิด (30%) - แต่ในความเป็นจริง 73% ยอมรับว่าข้อมูลมีปริ
มาณมหาศาลเกินไป และการขาดความเชื่อถือในข้อมู ลทำให้พวกเขาไม่สามารถตัดสิ นใจใด ๆ ได้เลย และ 92% เชื่อว่ายิ่งมีแหล่งข้อมูลเพิ่ มมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งเป็นตัวจำกัดความสำเร็ จขององค์กรเท่านั้น - การจัดการแหล่งข้อมูลที่แตกต่
างกันจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรเพิ่ มเติมเพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมด (47%) ทำให้การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ช้ าลง (38%) และอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดมากขึ้ น (31%) - ผู้บริหารธุรกิจไม่เชื่อว่
าแนวทางการใช้ข้อมูลและการวิ เคราะห์ในปัจจุบันจะสามารถรับมื อกับความท้าทายเหล่านี้ได้ โดย 74% ของผู้ตอบแบบสอบถามในภูมิภาค JAPAC ยอมรับว่าแผงควบคุมและแผนภูมิที่ พวกเขาได้รับมา ไม่ได้สัมพันธ์โดยตรงกับการตั ดสินใจที่พวกเขาต้องทำเสมอไป และ 77% เชื่อว่าข้อมูลส่วนใหญ่มี ประโยชน์สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้ านไอทีหรือนักวิทยาศาสตร์ข้อมู ลเท่านั้น - ผู้บริหารธุรกิจทราบว่าสิ่งนี้
จำเป็นต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง พวกเขาเชื่อว่าข้อมูลและข้อมู ลเชิงลึกที่ถูกต้องสามารถช่ วยสนับสนุนพวกเขาในการตัดสิ นใจได้ดีขึ้นทั้งในเรื่องทรั พยากรบุคคล (97%) การเงิน (93%) ห่วงโซ่อุปทาน (95%) และประสบการณ์ลูกค้า (93%)
การรวบรวมและตีความข้อมูลผลักดั
- ผู้คน 73% ระบุว่ารู้สึกปวดหัวกับการที่ต้
องรวบรวมและตีความข้อมูล เพราะมันมีจำนวนมากกว่าที่ พวกเขาที่จะสามารถจัดการได้ - โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกธุรกิจ 75% ของผู้บริหารธุรกิจกล่าวว่าผู้
คนมักตัดสินใจก่อนแล้วจึงค่ อยหาข้อมูลเพื่อนำมาสนับสนุ นการตัดสินใจนั้น พนักงาน 74% เชื่อว่าธุรกิจต่าง ๆ มักให้ความสำคัญกับความคิดเห็ นของบุคคลที่มีรายได้สูงสุ ดมากกว่าข้อมูล และ 26% ของผู้ตอบแบบสอบถามใน JAPAC รู้สึกว่าการตัดสินใจส่วนใหญ่ที่ เกิดขึ้นในองค์กรนั้นไม่สมเหตุ สมผล - สถานการณ์มีความท้าทายอย่างมาก จนทำให้ผู้คนกว่า 81% และผู้บริหารธุรกิจกว่า 85% ต้องการขจัดปัญหาเหล่านี้
และให้หุ่นยนต์มาช่วยตัดสิ นใจแทน - แม้รู้สึกผิดหวังกับข้อมูลทั้
งในเรื่องส่วนตัวและการทำงาน แต่ผู้คนทราบว่าหากไม่มีข้อมูล การตัดสินใจของพวกเขาจะแม่นยำน้ อยลง (45%) ประสบความสำเร็จน้อยลง (32%) และมีแนวโน้มเกิดข้อผิดพลาด (41%) - ผู้คนยังเชื่อว่าองค์กรที่ใช้
เทคโนโลยีการตัดสินใจที่ขับเคลื่ อนด้วยข้อมูลนั้น มีความน่าเชื่อถือมากกว่า (77%) จะประสบความสำเร็จมากกว่า (77%) เป็นบริษัทที่พวกเขาอยากลงทุนด้ วย (75%) เป็นพันธมิตรคู่ค้าด้วย (75%) และทำงานด้วย (76%)
“ในยุคแห่งปัญญาประดิษฐ์
“เมื่อธุรกิจในประเทศไทยเกิ
“ผู้นำธุรกิจในเอเชียแปซิฟิ
กระบวนการศึกษา
กลุ่มตัวอย่างจากทั่วโลกจำนวน 14,250 คนได้ถูกสำรวจความคิดเห็นในเดื
DKC Analytics ดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
ดูข้อมูลเกี่ยวกับ Oracle Analytics
ดูข้อมูลเกี่ยวกับ Oracle Fusion Analytics
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น