·
ออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ สี DELTA GRYPTO 5 IN 1 และ DELTA PRECAST SOLUTIONS
·
เปิดโรงงานใหม่ เพิ่มกำลังผลิต 50% ช่วยประหยัดต้นทุน
บมจ.สีเดลต้า หรือ DPAINT เผยแผนธุรกิจเชิงรุกครั้งใหญ่ สู้เงินเฟ้อ น้ำมันแพง เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ DELTA GRYPTO 5 IN 1 และ DELTA PRECAST SOLUTIONS กลุ่มเคมีก่อสร้างครบวงจร เจาะตลาดผู้รับเหมา และช่างทาสี พร้อมเปิดตัว สีทาเหล็ก ล่าสุดเปิดโรงงานแห่งที่ 2 ขยายฐานกำลังผลิต ช่วยลดต้นทุนได้มากกว่าเดิม
นายรณฤทธิ์
ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ “DPAINT” เปิดเผยถึง ทิศทางธุรกิจปี
2565 “DPAINT จะรุกตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง
ด้วยสินค้าที่พัฒนาโดยใช้นวัตนกรรมอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งถือเป็นเซกเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดของตลาดสีทาอาคาร โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดตัว
2 กลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ที่จับกลุ่มเซกเมนต์พรีเมียม เจาะกลุ่มตลาดผู้รับเหมา
และช่างสี เพื่อรองรับการใช้งานที่สะดวกและประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น นั่นคือ 1.DELTA GRYPTO 5 IN 1 เป็นสีน้ำมันเคลือบผสมรองพื้นกันสนิม สำหรับทาพื้นผิวเหล็ก 2.DELTA
PRECAST SOLUTIONS ซึ่งเป็นกลุ่มเคมีภัณฑ์ที่ใช้สำหรับงานก่อสร้าง อาทิ
2.1 DELTA ROOFSEAL UV BLOCK เป็นผลิตภัณฑ์ทาทับกันซึม ทนต่อแสงแดด
รังสียูวี 2.2 DELTA HYBRID/PU SEALANT ยาแนวรอยต่อปิดรอยแตกร้าวของผนัง
2.3 DELTA NON-SHRINK GROUT ปูนสำเร็จรูปชนิดไม่หดตัว ทนต่อแรงสั่นสะเทือน
2.4 DELTA SKIMCOAT ปูนฉาบชนิดเนื้อบางปิดรอยแตกร้าวของผนัง 2.5
DELTA CEMENT WATERPROOF FLEX ปูนซีเมนต์ชนิดใช้ทากันซึม
2.6 DELTA SELF-LEVELING ปูนชนิดปรับระดับด้วยตนเอง ช่วยปรับระดับพื้นให้เรียบเนียน
2.7 DELTA WALL PUTTY ปูนฉาบผนังชนิดแห้งไว ยึดเกาะได้ดี
ปลอดภัยไร้สารอันตราย
“ทั้งนี้ DPAINT ยังมุ่งเน้นในการเติบโตด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรม
รวมถึงการแสวงหาพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อสร้างแบรนด์ต่อยอดธุรกิจ และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้มากยิ่งขึ้น
ซึ่ง DPAINT ได้เปิดดำเนินการโรงงานแห่งที่ 2 ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง
โดยมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นประมาณ 50% เป็นกำลังการผลิตรวม 4.8 ล้านแกลลอนต่อปี
โดยโรงงานใหม่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Slurry แทนระบบ Co-Grind เพิ่มประสิทธิภาพ ช่วยลดขั้นตอนและลดการสูญเสียจากสารเคมีที่เป็นวัตถุดิบในการผลิต
ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการผลิตได้มากขึ้น ” นายรณฤทธิ์กล่าว
นายอรรถพล
ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบัญชีและการเงิน บริษัท สีเดลต้า จำกัด
(มหาชน) หรือ “DPAINT” เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทว่า “ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทฯ
มีรายได้รวม 218 ล้านบาท เติบโต 28 ล้านบาท หรือ 14.6%
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จาก
กำไรสุทธิในไตรมาส 4/2564 ที่ 10.5 ล้านบาท แต่ลดลงจากกำไรสุทธิ 21
ล้านบาทในช่วงเดียวกันในปีก่อน ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจาก 1) ราคาน้ำมันและราคาปิโตรเคมีปรับตัวขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว
ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตสีทั่วโลกในไตรมาสนี้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ 2)ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าทำให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้นส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรข้างต้นของบริษัท
3)สภาวะอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจและกำลังซื้อฟื้นตัวช้าและอ่อนแอกว่าคาด
อีกทั้ง มาตรการ Zero Covid ในจีนส่งผลให้เกิดความขาดแคลนของวัตถุดิบ
และความล่าช้าในขนส่ง
อย่างไรก็ดี
บริษัทฯ ได้ปรับราคาสินค้าขึ้น 6%-12% ซึ่งมีผลในไตรมาส 2
เพื่อรักษาอัตรากำไรและสะท้อนต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ
ได้ดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต รวมถึงลดต้นทุนวัตถุดิบ
และลดค่าใช้จ่ายในการบริหารและการขายอีกด้วย คาดว่าบริษัทฯ
จะลดต้นทุนการผลิตลงได้ประมาณ 3% -5% ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป
จึงมั่นใจว่าอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ จะปรับตัวดีขึ้นสู่สภาวะปกติ
“บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้ให้เติบโตในอัตราที่น่าพอใจ และคาดว่าในปีนี้ เราสามารถสร้างรายได้ให้เติบโตประมาณ 25-30% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และรักษาความเป็นผู้นำในตลาดสีระดับพรีเมียม คุณภาพสูง ซึ่งเป็นตลาดที่มีอัตรากำไรที่ดีไว้ได้อย่างมั่นคง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ วางเเผนที่จะขยายส่วนเเบ่งการตลาด ในตลาดสีระดับกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ โดยใช้กลยุทธ์การสร้างเเบรนด์ และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้สูง นอกจากนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าส่งออกสีทาอาคารใน CLMV ซึ่งเป็นตลาดใหญ่มูลค่ากว่า 17,000 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นนวัตกรรม “VAKUUM Technology” จากประเทศเยอรมนี และรุกตลาด Blue Ocean มากยิ่งขึ้น พร้อมสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรม ขยายกลุ่มเซ็กเม้นท์พรีเมียม เพื่อสนับสนุนอัตรากำไรให้อยู่ใน
ระดับสูง ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของ DPAINT มีสัดส่วนสีคุณภาพพิเศษ
40% สีคุณภาพสูง 30% และสีคุณภาพคุ้มค่า
30% ของรายได้รวมจากการขายและบริการ
โดยจำหน่ายผ่านช่องทางการจำหน่ายรวมกันมากกว่า 1,500 สาขา
เกือบทั่วประเทศ ได้แก่ ร้านโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) ร้านค้าปลีก
(Retail) และงานโครงการ (Project) รวมทั้ง
การบริการเครื่องผสมสีที่นำไปติดตั้งให้ลูกค้าที่เป็นร้านค้าใช้งาน ซึ่งในปัจจุบัน
บริษัทฯ มีเครื่องผสมสีทั้งหมด 505 เครื่อง
โดยตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 600
เครื่อง ภายในสิ้นปี 2565 นี้ เพื่อเป็นการขยายช่องทางในการจัดจำหน่ายที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น
และจัดจำหน่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น