สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิ จขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เดินหน้าส่งเสริมการขายให้ SME ไทย นำผู้ประกอบการ กลุ่มเครื่องสำอาง สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม 20 ราย รุกตลาดญี่ปุ่น ร่วมงาน “DIET & BEAUTY FAIR 2019” ครั้งที่ 18 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผลประสบความสำเร็จอย่างสูง มีการเจรจาทางธุรกิจเกิดขึ้ นมากถึง 330 คู่ สร้างมูลค่าการเจรจาธุรกิจ 386.48 ล้านบาท ชี้กลุ่มสินค้าแอนตี้ เอจจิ้ง, สินค้าจากสมุนไพร และออร์แกนิค มาแรง
นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิ สาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ผลการนำผู้ประกอบการไทยกลุ่มสิ นค้าเครื่องสำอาง กลุ่มสินค้าเพื่อสุ ขภาพและความงาม ไปร่วมทดสอบตลาด และร่วมการจับคู่ทางธุรกิจ (business matching) ที่ประเทศญี่ปุ่น ในงาน “DIET & BEAUTY FAIR 2019” ครั้งที่ 18 ทีกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีการจัดเจรจาธุรกิจไปเมื่ อเร็วๆ นี้ (9-11 ก.ย. 62) 3 วัน มีการเจรจาทางธุรกิจเกิดขึ้ นจำนวน 330 คู่ สามารถสร้างมูลค่าการเจรจาธุรกิ จสูงถึง 386.48 ล้านบาท
“การนำผู้ประกอบการไทยกลุ่มสิ นค้าเครื่องสำอาง กลุ่มสินค้าเพื่อสุ ขภาพและความงาม จำนวน 20 ราย ไปร่วมงาน “DIET & BEAUTY FAIR 2019” ต่างได้รับการตอบรับที่ดีจากคู่ ค้า ทั้งในประเทศญี่ปุ่น และคู่ค้าจากต่างประเทศ โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รั บความสนใจสูงจะเป็นทั้ง กลุ่มเครื่องสำอาง โดยเฉพาะกลุ่มลดเรือนริ้วรอย (แอนตี้ เอจจิ้ง) และกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงเส้ นผมและหนังศีรษะที่มาจากสมุนไพร สารสกัดจากธรรมชาติ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นออร์ แกนิก”
นายสุวรรณชัย เผยด้วยว่า กลุ่มผู้ซื้อ (Buyer) ภายในงานประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจเพื่อความงามทั้ งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ ได้แก่ จีน สิงคโปร์ ไทย ไต้หวัน รัสเซีย สหราชอาณาจักร เกาหลี สหรัฐอเมริกา และ อิหร่าน โดยประเภทธุรกิจ ได้แก่ ผู้นำเข้า-ส่งออก ร้านเสริมสวย ผู้แทนจำหน่าย ร้านค้าออนไลน์ ร้านค้าปลีก-ส่ง ร้านสปา ธุรกิจโรงแรม โรงเรียนสอนทำผม โรงงานผลิต และฟิตเนส รวมถึงธุรกิจสปาไทยในประเทศญี่ ปุ่น
การนำผู้ประกอบการไทยไปร่ วมงานเจรจาการค้าและจับคู่ทางธุ รกิจ ที่ประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้ สสว. และสถาบันพัฒนาวิสาหกิ จขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) หน่วยงานพันธมิตร ได้ร่วมจัดขึ้น ภายใต้โครงการพัฒนาช่ องทางการตลาดสำหรับผู้ประกอบการ SME ปี 2562 เพื่อส่งเสริมการขยายตลาดใหม่ ให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทำให้ผู้ประกอบการไทยได้พบกับคู่ ค้าตัวจริง และขยายการส่งออกสินค้าไปสู่ ตลาดต่างประเทศในระยะยาว
ที่สำคัญ ผลจากการไปร่วมงานครั้งนี้ ยังเป็นการตอกย้ำกับศั กยภาพของประเทศไทย ที่เป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ของเครื่องสำอางในภูมิภาคอาเซี ยน และอันดับสามในภูมิภาคเอเชีย รองจากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี ใต้ อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น