ธนาคารกรุงเทพ ร่วมศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ตอกย้ำเจตนารมณ์ “เพื่อนคู่คิด” สานต่อภารกิจ “ผู้ให้” ขับเคลื่อนหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ ต่อเนื่อง 26 ปี ระดมเลือดสำรองได้กว่า 16 ล้านซีซี - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2565

ธนาคารกรุงเทพ ร่วมศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ตอกย้ำเจตนารมณ์ “เพื่อนคู่คิด” สานต่อภารกิจ “ผู้ให้” ขับเคลื่อนหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ ต่อเนื่อง 26 ปี ระดมเลือดสำรองได้กว่า 16 ล้านซีซี

 


ธนาคารกรุงเทพ ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ขับเคลื่อนหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม และอาคารพระราม 3 ต่อเนื่องมากว่า 26 ปี เพื่อปฏิบัติภารกิจจัดหาปริมาณเลือดสำรองได้มากกว่า 16 ล้านซีซี ช่วยชีวิตคนได้แล้วกว่า 138,495 คน เดินหน้ารณรงค์อาสาสมัครทั้งพนักงานและบุคคลทั่วไปร่วมสานต่อการเป็น “ผู้ให้” ยึดมั่นภารกิจเพื่อสังคมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอกย้ำธนาคาร “เพื่อนคู่คิด” พร้อมอยู่เคียงข้างคนไทย ร่วมฝ่าฟันทุกวิกฤติ

นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  ตลอด 26 ปีที่ผ่านมา ธนาคารกรุงเทพร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต โดยใช้พื้นที่ธนาคาร ได้แก่ บริเวณอาคารสำนักงานใหญ่ สีลม และอาคารพระราม 3 ในการจัดตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ต่อเนื่องเป็นประจำทุกไตรมาส ตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมา โดยได้รับบริจาคโลหิตแล้ว 46,165 ยูนิต หรือสามารถจัดหาปริมาณเลือดได้รวม 16,157,750 ซีซี และสามารถนำไปช่วยชีวิตคนได้แล้วกว่า 138,495 คน สำหรับกิจกรรมครั้งล่าสุดในไตรมาสแรกของปี 2565 ที่ผ่านมานี้ ธนาคารได้รับการบริจาคโลหิต 393 ยูนิต คิดเป็นปริมาณเลือด 157,200 ซีซี และนำไปช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยอื่นได้ต่อถึง 1,179 คน  

ทั้งนี้ หากพิจารณาสถิติการบริจาคโลหิตจากหน่วยรับบริจาคเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงเทพ ย้อนหลังในช่วง 4 ปี (2560 – 2563) พบว่า หน่วยรับบริจาคของธนาคารมีปริมาณการบริจาคโดยเฉลี่ยปีละ 1,800 ยูนิต คิดเป็นปริมาณเลือดที่ช่วยจัดหาเพิ่มเติมให้กับสภากาชาดไทย ได้ราว 630,000 ซีซี สำหรับนำไปช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนโลหิตสำหรับผู้ป่วย หรือรองรับความต้องการโลหิตในช่วงฉุกเฉิน โดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังอยู่ระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ตลอดเกือบ 3 ปีที่ผ่านมานี้ มีปริมาณผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับกำลังจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาว มีการเดินทางมากขึ้น ทำให้ทางสภากาชาดไทยจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณโลหิตสำรองในกรณีฉุกเฉินเร่งด่วนมากขึ้นกว่าช่วงเวลาปกติ  ซึ่งนอกจากช่วยจัดหาปริมาณเลือดสำรองให้สภากาชาดไทยแล้ว ธนาคารยังเน้นการส่งเสริมความรู้เรื่องการเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิตให้อาสาสมัคร ทั้งผู้บริหาร พนักงานธนาคารและบุคคลทั่วไปปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องอีกด้วย

“ธนาคารได้จัดตั้งหน่วยบริการรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่เป็นประจำทุกไตรมาสมาต่อเนื่องถึง 26 ปี โดยได้รับความร่วมมือที่ดีจากทั้งอาสาสมัครและบุคลากรของธนาคาร รวมถึงคณะผู้บริหารระดับสูงที่ต่างแสดงออกถึงความเป็น “ผู้ให้” ด้วยการเข้าร่วมบริจาคโลหิตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือไปยังผู้คนในสังคม ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจเพื่อสังคมที่ธนาคารให้ความสำคัญ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาที่ยั่งยืน เพราะเชื่อมั่นว่าทรัพยากรบุคคลถือเป็นพื้นฐานสำคัญอันจะนำไปสู่   การพัฒนาสังคมในมิติอื่น ๆ ต่อไป ขณะเดียวกันยังเป็นการแสดงออกถึงเจตนารมณ์ที่ต้องการเป็น “เพื่อนคู่คิด” พร้อมอยู่เคียงข้างลูกค้าและสังคมไทยในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะการดูแลคุณภาพชีวิตในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับภาวะวิกฤติ”


นายทวีลาภ
 กล่าวต่อว่า นอกจากการใช้พื้นที่ภายในธนาคารจัดตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่แล้ว ธนาคารยังให้ความร่วมมือในการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนร่วมบริจาคโลหิต หรือการเป็นช่องทางบริจาคเงินสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย อันเป็นภารกิจที่นำมาซึ่งประโยชน์ต่อสังคมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการบริจาคในรูปแบบ e-Donation ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ ที่ช่วยตอบโจทย์เรื่องการอำนวยความสะดวกให้ผู้มีจิตศรัทธาสามารถบริจาคเงินสนับสนุนได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น เป็นต้น

สำหรับ กิจกรรมรับบริจาคโลหิต โดยธนาคารกรุงเทพร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ในการจัดตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ครั้งต่อไป จะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 19 เมษายน 2565 อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ระหว่างเวลา 09.00-15.30 น. และ อาคารพระราม 3 ระหว่างเวลา 09.00-15.00 น../

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad