ซัมซุงให้คุณต่างอย่างเหนือกว่า กับ “กาแลคซี่ เอส 10” อีกก้าวของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยม นวัตกรรมเพื่อเจเนอเรชั่นแห่งอนาคต - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ซัมซุงให้คุณต่างอย่างเหนือกว่า กับ “กาแลคซี่ เอส 10” อีกก้าวของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยม นวัตกรรมเพื่อเจเนอเรชั่นแห่งอนาคต

กรุงเทพ (21 กุมภาพันธ์ 2562)  – บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ฉลองครบรอบ 10 ปีแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรม เผยโฉมสมาชิกใหม่ของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยม ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 10 ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบทุกโจทย์ของทุกไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นของเจเนอเรชั่นใหม่ พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ที่เหนือกว่า ด้วยนวัตกรรมจอแสดงผล กล้องหน้าและกล้องหลังระดับ 4K และประสิทธิภาพการทำงานอันทรงพลัง

ซัมซุง กาแลคซี่ 10 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสมาร์ทโฟน เปิดตัวในประเทศไทยด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ กาแลคซี่ เอส 10e, เอส 10, และ เอส 10 พลัส ที่มาพร้อมนวัตกรรมหน้าจอแบบใหม่อย่าง Dynamic AMOLED และการปฏิวัติเทคโนโลยีกล้องบนโทรศัพท์มือถือ และประสิทธิภาพการทำงานอัจฉริยะ

ตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ซัมซุง กาแลคซี่ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของนวัตกรรมระดับพรีเมี่ยม ที่มอบประสบการณ์อันเหลือเชื่อให้กับผู้บริโภคและเป็นอุปกรณ์ที่ลงตัวกับความต้องการของพวกเขา ดีเจ โกห์ ประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าว “กาแลคซี่ เอส 10 ส่งต่อนวัตกรรมหน้าจอ กล้อง และประสิทธิภาพอันก้าวหน้า ซึ่งสมาร์ทโฟนสุดพรีเมี่ยมทั้ง 3 รุ่นนั้น ล้วนสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการอัน        เป็นเอกลักษณ์ของผู้ใช้ โดยซัมซุงได้ต่อยอดตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเพื่อมุ่งหน้าสู่ยุคใหม่ของเทคโนโลยีของสมาร์ทโฟน

นวัตกรรมหน้าจอแสดงผล Dynamic AMOLED มอบประสบการณ์การรับชมแบบไร้ขอบ มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือหน้าจอแบบอัลตราโซนิค
กาแลคซี่ เอส 10  มาพร้อมหน้าจอที่ดีที่สุดของซัมซุง ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกกับนวัตกรรมจอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED และยังเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่ได้รับการรับรองการแสดงผลระดับ HDR10+ ให้ภาพสีสันสดใส สมจริง สามารถปรับโทนสีของภาพแบบฉากต่อฉาก แสดงเฉดสีที่กว้างขึ้นและสมจริงที่สุด หน้าจอ Dynamic AMOLED ใน          กาแลคซี่ เอส 10 นี้ยังได้รับการรับรองจาก VDE สามารถแสดงภาพมีสีสว่างสดใส[1] และยังมีค่า Contrast Ratio ในขั้นสูง สามารถแสดงภาพที่มีสีดำได้เข้มสนิทไปจนถึงสีขาวที่สว่างที่สุดได้อย่างสมบูรณ์แบบคมชัดทุกรายละเอียด[2] 
จากการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง หน้าจอไร้ขอบ Infinity-O อันเป็นเอกลักษณ์ของกาแลคซี่ เอส 10 บรรจุชุดเซ็นเซอร์และเทคโนโลยีกล้องไว้บนหน้าจอ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับคอนเทนต์ได้อย่างจุใจ จากการรับรองโดย DisplayMate หน้าจอของกาแลคซี่ เอส 10 มอบเฉดสีที่สมจริง[3] แม้อยู่ในสภาพแสงจ้า นอกจากนี้ หน้าจอ Dynamic AMOLED ยังผ่านการรับรองโดย TÜV Rheinland[4] ในด้านการถนอมสายตาจากแสงสีฟ้าที่อันตราย สามารถลดแสงสีฟ้าโดยไม่ลดคุณภาพของภาพหรือใส่ฟิลเตอร์เพิ่มลงบนภาพ

นอกจากนี้หน้าจอ Dynamic AMOLED ของกาแลคซี่ เอส 10 ยังมาพร้อมนวัตกรรมครั้งแรกของโลกกับซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอแบบอัลตราโซนิค[5] ที่อ่านค่ารอยนิ้วมือของผู้ใช้แบบสามมิติ เพื่อป้องกันการปลอมแปลง และครั้งแรกของโลกกับการรับรองด้วยข้อมูลทางชีวภาพขั้นสูง รับรองจาก FIDO Alliance Biometric Component ที่ให้ความปลอดภัยกับอุปกรณ์เสมือนระบบนิรภัย

เทคโนโลยีกล้องระดับมืออาชีพบนกาแลคซี่ เอส 10
ในฐานะผู้นำด้านกล้อง Dual Pixel และ Dual Aperture เป็นที่แรก ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 10 ได้นำเทคโนโลยีสุดล้ำของกล้องและความฉลาดขั้นสูงที่ทำให้การถ่ายภาพและวิดีโอเป็นเรื่องง่าย
·       บันทึกวิดีโอ 4K และระบบกันสั่นอัจริยะ: กาแลคซี่ เอส 10 นำเสนอการบันทึกวิดีโอแบบ Super Steady ด้วยเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหวระบบดิจิทัล ไม่ว่าจะบันทึกวิดีโอขณะสนุกกับงานคอนเสิร์ต หรือปั่นจักรยานบนทางที่ขรุขระ Super Steady ในกาแลคซี่ เอส 10 จะช่วยเก็บบรรยากาศเหล่านั้นได้อย่างมืออาชีพ สามารถถ่ายวิดีโอคุณภาพระดับ 4K ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกของวงการโทรศัพท์มือถือที่กล้องหลังของ กาแลคซี่ เอส 10 สามารถบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงสุดถึง HDR10+[6]
·       เลนส์ Ultra Wide: เป็นครั้งแรกของสมาร์ทโฟนกาแลคซี่ ตระกูลเอส ที่มาพร้อมเลนส์ Ultra Wide สามารถเก็บภาพมุมกว้างได้ถึง 123 องศา เสมือนภาพที่มองเห็นด้วยตาจริง ไม่ว่าจะเป็นภาพวิวทิวทัศน์ ภาพพาโนรามา หรือแม้แต่ถ่ายภาพครอบครัว กาแลคซี่ เอส 10 ก็สามารถเก็บภาพคงามทรงจำเหล่านั้นได้ครบทุกรายละเอียด ไม่หลุดกรอบ
·       กล้องปัญญาประดิษฐ์ (AI Camera): ให้การประมวลแม่นยำยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี AI บนชิป Neural Processing Unit (NPU) ของกาแลคซี่ เอส 10 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพแบบมืออาชีพได้โดยไม่ต้องคอยตั้งค่ากล้องถ่ายภาพทีละขั้นตอนให้ยุ่งยาก Scene Optimizerสามารถจดจำ และประมวลฉากต่าง ๆ ได้แม่นยำยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมฟีเจอร์ Shot Suggestion หรือการแนะนำจัดวางภาพที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ภาพที่ออกมามีองค์ประกอบที่ลงตัวราวกับภาพถ่ายด้วยช่างภาพมืออาชีพ

คุณสมบัติอัจฉริยะที่ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากสมาร์ทโฟน
กาแลคซี่ เอส 10 ถูกสร้างสรรค์ด้วยวัสดุพรีเมี่ยมและระบบประมวลผล Machine Learning อัจฉริยะ เพื่อมอบความสะดวกสบายและช่วยให้ผู้ใช้มีชีวิตที่ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแชร์แบตเตอรี่ให้ดีไวซ์อื่น ๆ การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ AI และ Wi-Fi อันชาญฉลาด จึงทำให้กาแลคซี่ เอส 10 ถือเป็นอุปกรณ์ทรงพลังที่สุดของซัมซุง ณ ขณะนี้
·       PowerShare แบบไร้สาย[7]ซัมซุงส่งนวัตกรรม PowerShare หรือการแชร์แบตเตอรี่ให้ดีไวซ์อื่น ๆ แบบไร้สาย ให้กับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ที่รองรับ Qi ได้อย่างง่ายดาย โดยกาแลคซี่ เอส 10 สามารถชาร์จไฟให้ตัวเองด้วยสายชาร์จปกติและชาร์จอุปกรณ์อื่นในเวลาเดียวกันได้ ลดความยุ่งยากในการพกที่ชาร์จหลายอันเวลาเดินทาง
·       ประสิทธิภาพการทำงานอัจฉริยะซอร์ฟแวร์แบบใหม่บนสมาร์ทโฟน กาแลคซี่ เอส 10 สามารถตรวจจับการทำงานของแบตเตอรี่ CPU และ RAM หรือแม้แต่อุณหภูมิของตัวเครื่องตามการใช้งานของผู้ใช้ และยังสามารถเรียนรู้กิจวัตรการใช้โทรศัพท์เพื่อเปิดแอปที่ใช้บ่อยที่สุดได้เร็วยิ่งขึ้น
·       Wi-Fi อัจฉริยะ: กาแลคซี่ เอส 10 มาพร้อม Wi-Fi อัจฉริยะ ให้การเชื่อมต่อเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีสะดุดและปลอดภัย โดยการสลับการเชื่อมต่อระหว่าง Wi-Fi และ LTE อีกทั้งคอยแจ้งเตือนเมื่ออุปกรณ์กำลังจะเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ที่มีความเสี่ยง กาแลคซี่ เอส 10 รองรับมาตรฐาน Wi-Fi 6 เพื่อให้สามารถใช้งาน Wi-Fi ราบรื่นยิ่งขึ้นเมื่อเชื่อมต่อกับเราเตอร์ที่รองรับ
·       ให้ชีวิตง่ายขึ้นด้วย Bixby: Bixby บนกาแลคซี่ เอส 10 สามารถช่วยจัดการชีวิตประจำวันของผู้ใช้และออกแบบการใช้งานแบบเฉพาะตัวของผู้ใช้อัตโนมัติ ด้วยการตั้งค่าล่วงหน้า เช่นการใช้งานโทรศัพท์ขณะขับรถหรือก่อนเข้านอน โดยสามารถออกแบบได้ตามการใช้งานของผู้ใช้ กาแลคซี่ เอส 10 จึงเปรียบเสมือนตัวช่วยที่ให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายขึ้น ช่วยลดเวลาในการจับสมาร์ทโฟนเพื่อตั้งค่าต่าง ๆ ระหว่างวัน[8]

ที่สุดแห่งมาตรฐานใหม่: ต้นแบบกาแลคซี่ และ ‘อีโคซิสเต็ม’ รุ่นถัดไป
ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 10 มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่อยู่ในสมาร์ทโฟน กาแลคซี่ เอส ซีรีส์ และเสริมทัพด้วยการเพิ่มความสามารถเหล่านั้นให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทั้งระบบการชาร์จเร็วแบบ Fast Wireless Charging 2.0 ความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP68[9] ใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ รวมทั้งบริการสุดล้ำจากซัมซุง ไม่ว่าจะเป็น ผู้ช่วยคำสั่งเสียงอัจฉริยะ Bixby แพลตฟอร์ม Samsung Health, Samsung Pay และ Samsung DeX พร้อมหน่วยความจุภายในของรุ่น กาแลคซี่ เอส 10 พลัส ที่ให้มามากสูงสุดถึง 1 TB[10] และยังสามารถเพิ่มหน่วยความจุด้วยMicro SD Card ได้สูงสุดถึง 512 GB รวมเป็น 1.5 TB [11]
·       ความเร็ว: กาแลคซี่ เอส 10 รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 ให้ผู้ใช้งานเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเร็วสูงขึ้นถึง 4 เท่า[12] ได้ก่อนใคร แม้อยู่ในพื้นที่ที่มีการใช้สัญญาณอย่างหนาแน่น[13] เช่น สนามบิน เป็นต้น พร้อมสัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อสัญญาณ LTE ที่สามารถดาวน์โหลด และเบราซ์ข้อมูลได้เร็วถึง 2.0 Gbps เป็นครั้งแรก[14]
·       เกม: กาแลคซี่ เอส 10 ถูกออกแบบด้านวิศวกรรมมาเป็นอย่างดี เพื่อรองรับผู้ใช้งานที่ต้องการเล่นเกม ให้ได้รับประสบการณ์สูงสุด ด้วยเทคโนโลยีซอฟท์แวร์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วย (AI-based) ผสานการทำงานร่วมกันกับฮาร์ดแวร์ระดับพรีเมี่ยม อย่าง ระบบเสียงDolby Atmos สำหรับโหมดเล่นเกมโดยเฉพาะ พร้อมระบบจัดการความร้อนแบบพิเศษที่ใช้ของเหลวเข้ามาช่วย ซึ่ง กาแลคซี่ เอส 10 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ได้รับการoptimized เพื่อรองรับเกมส์ที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Unity มอบประสบการณ์ทรงพลังสำหรับคอเกมโดยเฉพาะ
·       ความปลอดภัย: กาแลคซี่ เอส 10 มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยระดับที่ใช้ในทางการทหาร อย่าง Samsung Knox ซึ่งสามารถป้องกันข้อมูลต่าง ๆ ในเครื่อง พร้อมจัดเก็บกุญแจส่วนตัว สำหรับบริการจัดการธุรกรรมต่าง ๆ บนสมาร์ทโฟนได้อย่างปลอดภัย

รุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทย
กาแลคซี่ เอส 10e, กาแลคซี่ เอส 10, กาแลคซี่ เอส 10 พลัส และ มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีขาว Prism White, สีดำ Prism Black, สีเขียว Prism Green, สีน้ำเงิน Prism Blue, สำหรับรุ่น กาแลคซี่ เอส 10 พลัส มีสีพรีเมี่ยมแบบใหม่ให้เลือกเพิ่มเติมอีก 2 สี คือ สีดำ Ceramic Blackและสีขาว Ceramic White[15]

โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 8 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป กาแลคซี่ เอส 10e ราคา 26,900, กาแลคซี่ เอส 10 ราคา 31,900 บาทกาแลคซี่ เอส 10 พลัส ราคา 35,900-55,900 บาท

ทั้งนี้ ซัมซุงเปิดจอง กาแลคซี่ เอส 10 และ เอส 10 พลัส ล่วงหน้าแล้ว ตั้งแต่วันนี้ ถึง 4 มีนาคม 2562 เท่านั้น! พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย สามารถติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมได้ที่ http://www.samsung.com/th/s10preorder

คุณลักษณะจำเพาะของ
ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 10, กาแลคซี่ เอส 10 พลัส และ กาแลคซี่ เอส 10e

กาแลคซี่ เอส 10e
กาแลคซี่ เอส 10
กาแลคซี่
เอส
10  พลัส




หน้าจอ
- ขนาด 5.8 นิ้ว
- หน้าจอ Full HD+ Flat Dynamic AMOLED (438ppi)
- สัดส่วนหน้าจอ 19:9
- ขนาด 6.1 นิ้ว
- หน้าจอ Quad HD+ Curved Dynamic AMOLED (550ppi)
- สัดส่วนหน้าจอ 19:9

*ความละเอียดมาตรฐานคือ Full HD+ สามารถปรับเป็น Quad HD+ (WQHD+) ได้ในเมนูการตั้งค่า
- ขนาด 6.4 นิ้ว
- หน้าจอ Quad HD+ Curved Dynamic AMOLED (522ppi)
- สัดส่วนหน้าจอ 19:9

*ความละเอียดมาตรฐานคือ Full HD+ สามารถปรับเป็น Quad HD+ (WQHD+) ได้ในเมนูการ       ตั้งค่า
* วัดจอภาพแนวทแยงมุมแบบเต็มสี่เหลี่ยมมุมฉาก โดยไม่วัดมุมโค้งมน








คุณสมบัติกล้อง
กล้องหลัง: 2 ตัว พร้อมระบบกันสั่น OIS
- เลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 12 MP Dual Pixel AF รูรับแสง F/1.5, F/2.4 OIS (77°)
- เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16 MP FF รูรับแสง F/2.2 (123°)





กล้องหน้า:
 - Selfie ความละเอียด 10 MP Dual Pixel AF รูรับแสง F/1.9 (80°)
กล้องหลัง: 3 ตัว พร้อมระบบ กันสั่น Dual OIS
 - เลนส์เทเลโฟโต้ ความละเอียด 12 MP PDAF รูรับแสง F/2.4 OIS (45°)
- เลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 12 MP Dual Pixel AF รูรับแสง F/1.5, F/2.4 OIS (77°)
- เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16 MP FF รูรับแสง F/2.2 (123°)


กล้องหน้า:
 - Selfie ความละเอียด 10 MP Dual Pixel AF รูรับแสง F/1.9 (80°)
กล้องหลัง: 3 ตัว พร้อมระบบกันสั่น     Dual OIS
 - เลนส์เทเลโฟโต้ ความละเอียด 12 MP PDAF รูรับแสง F/2.4 OIS (45°)
- เลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 12 MP Dual Pixel AF รูรับแสง F/1.5, F/2.4 OIS (77°)
- เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16 MP FF รูรับแสง F/2.2 (123°)


กล้องหน้า: 2 ตัว
 - Selfie ความละเอียด 10 MP Dual Pixel AF รูรับแสง F/1.9 (80°)
- RGB Depth ความละเอียด 8 MP FF รูรับแสง F/2.2 (90°)

ขนาดตัวเครื่อง
69.9 x 142.2 x 7.9 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 150 กรัม
70.4 x 149.9 x 7.8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 157 กรัม
74.1 x 157.6 x 7.8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 175 กรัม
(รุ่นเซรามิก 198 กรัม)



หน่วยประมวลผล
64-bit Octa-core processor ขนาด 7 นาโนเมตร (Max. 2.8 GHz + 2.4 GHz + 1.7 GHz)
64-bit Octa-core processor ขนาด 8 นาโนเมตร (Max. 2.7 GHz + 2.3 GHz + 1.9 GHz)

*อาจแตกต่างกันในแต่ละตลาดและผู้ให้บริการ




หน่วยความจำ
แรม 6GB/8GB (LPDDR4X)
ความจุ 128GB
เพิ่ม Micro SD สูงสุด 512GB
แรม 8GB (LPDDR4X)
ความจุ 128GB
เพิ่ม Micro SD สูงสุด 512GB
แรม 8GB/12GB (LPDDR4X)
ความจุ 128GB/512GB/1TB
เพิ่ม Micro SD สูงสุด 512GB
*อาจแตกต่างกันในแต่ละตลาดและผู้ให้บริการ
*หน่วยความจำของผู้ใช้งาน จะเหลือน้อยกว่าหน่วยความจำโดยรวม เนื่องจากถูกดึงไปใช้ในการติดตั้งระบบ และซอฟท์แวร์ เพื่อให้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ทำงานบนอุปกรณ์ได้ โดยหน่วยความจำของผู้ใช้งานจะขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ทำการอัปเกรดซอฟท์แวร์


ซิมการ์ด
แบบสองซิม (ซิมไฮบริด): Nano SIM + Nano SIM และช่องสำหรับ MicroSD slot (สูงสุด 512GB)

*อาจแตกต่างกันในแต่ละตลาดและผู้ให้บริการ
*Micro SD Card วางจำหน่ายแยกโดยเฉพาะ
แบตเตอรี่[1]

3,100 มิลลิแอมป์

3,400 มิลลิแอมป์

4,100 มิลลิแอมป์
รองรับการชาร์จเร็ว (Fast Charging) ทั้งแบบต่อสาย และแบบไร้สาย
ด้วย
Fast Wireless Charging 2.0 รองรับ Wireless Power Share[2]

*รองรับการชาร์จไร้สายร่วมกับเทคโนโลยี QC 2.0 , AFC , WPC และ PMA
*อาจแตกต่างกันในแต่ละตลาดและผู้ให้บริการ
ระบบปฏิบัติการ
แอนดรอยด์ 9.0 (Pie)

เครือข่ายที่รองรับ
Enhanced 4x4 MIMO , Up to 7CA, LAA, LTE Cat.20
- ดาวน์โหลด 2.0 Gbps
- อัปโหลด 150 Mbps

*อาจแตกต่างกันในแต่ละตลาดและผู้ให้บริการ



การเชื่อมต่อ
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax (2.4/5GHz), VHT80 MU-MIMO, 1024QAM
- ดาวน์โหลด 1.2 Gbps
- อัปโหลด 1.2 Gbps
*อาจแตกต่างกันในแต่ละตลาดและผู้ให้บริการ

Bluetooth® v.5.0, ANT +, USB Type-C, NFC, Location (GPS, Galileo*, Glonass, BeiDou*)
*ประกัน Galileo และ BeiDou อาจมีการจำกัด



[1] แบตเตอรี่ต้นแบบผ่านการทดสอบโดยห้องทดลองโดยเฉพาะ อาจจะมีความจุน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน การเชื่อมต่อเครือข่าย และปัจจัยอื่น ๆ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.samsung.com
[2] Wireless Power Share รองรับเฉพาะอุปกรณ์ซัมซุง หรือสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น ๆ ที่รองรับการชาร์จไร้สายแบบ WPC Qi โดยรุ่นที่รองรับได้แก่ Galaxy S9, S9+, S8, S8+, S8 Active, S7, S7 edge, S7 Active, S6 edge+, Note 9, Note 8, Note FE, Note 5 รวมทั้งอุปกรณ์แวเรเบิลอื่น ๆ เช่น Galaxy Watch Active, Gear Sport, Gear S3, Galaxy Watch (46/42mm) และหูฟัง Galaxy Buds โดยฟังก์ชันนี้อาจจะไม่สามารถใช้งานได้ในกรณีที่มีอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ และอาจจะรบกวนการเชื่อมต่อสัญญาณ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการใช้งาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad