นายปรีชา กิจถาวร นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีขบวนการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรแช่แข็งเข้ามาในประเทศไทย โดยสำแดงเท็จว่าเป็นสินค้าชนิดอื่น มีการจัดจำหน่ายทั้งแบบบรรจุภัณฑ์ที่ลักลอบมาจากต่างประเทศ และกระจายสินค้าเพื่อจำหน่ายปะปนกับเนื้อสุกรไทย เรื่องนี้ถือเป็นการบ่อนทำลายภาคอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรของประเทศ ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่องรวมแล้วกว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี ผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศขอเรียกร้องให้ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบหาข้อเท็จจริง และดำเนินการจับกุมเอาผิดผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย ทั้งความผิดทางศุลกากร และผิดกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์ โดยเฉพาะความเสี่ยงเรื่องโรคสุกรที่อาจติดมากับผลิตภัณฑ์ที่ไม่รู้แหล่งที่มา ซึ่งไม่มีใบขออนุญาตนำเข้าซากสัตว์ และไม่ผ่านการกักตรวจโรคก่อนนำเข้ามาในราชอาณาจักร รวมถึงความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของสารเร่งเนื้อแดงที่ถือเป็นสารต้องห้าม ตามพรบ.ควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ เนื้อสุกรแช่แข็งที่ลักลอบนำเข้ามานี้จึงถือเป็น “มหันตภัย” ต่อผู้บริโภคชาวไทย ต่อพี่น้องเกษตรกร และทำลายเศรษฐกิจไทยอย่างแท้จริง
“ขบวนการนำเข้าเนื้อหมูจากต่
างประเทศลักลอบเข้ามาสวมเป็นหมู
ไทย เพื่อกระจายขายในพื้นที่ต่างๆทั่
วประเทศนี้ กำลังสร้างความเสียหายให้กั
บประเทศไทย ทั้งในแง่เศรษฐกิจจากการนำเข้
าโดยสำแดงเท็จหรือหลีกเลี่
ยงภาษีอากร ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ การนำเข้าโรคระบาดสัตว์ที่อาจติ
ดมากับสินค้าลักลอบที่ไม่ผ่
านการกักตรวจโรค หากในสินค้ามีโรคปนเปื้อนย่
อมทำลายภาคอุตสาหกรรมหมูอย่างย่
อยยับ ขณะเดียวกันผู้เลี้ยงหมูและห่
วงโซ่อุปทานจะต้องล่
มสลายจากกลไกสินค้าที่ถูกบิดเบื
อนเพราะผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ต่
างประเทศ ที่สำคัญคนไทยต้องเสี่ยงกั
บสารเร่งเนื้อแดงที่แถมมาด้
วยโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เกษตรกรทั่วประเทศขอให้ภาคส่
วนที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาดูแล ตรวจสอบ และปราบปรามขบวนการนี้โดยเร็ซ เพื่อไม่ให้ประชาชน ประเทศชาติ และอาชีพเลี้ยงหมูของเกษตรกรกว่
า
2 แสนรายต้องพังลง” นายปรีชา กล่าว
นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัย โดยผู้เลี้ยงสุกรต่างร่วมใจกันปฏิบัติตามกฎหมายโดยคำนึงถึงผู้บริโภคปลายทาง ตลอดจนเร่งยกระดับการป้องกันโรคระบาดในสุกรเพื่อรักษาอาชีพเดียวไว้ และพัฒนากระบวนการผลิตเนื้อสุกรปลอดสาร ปลอดโรค ปลอดภัยเพื่อผู้บริโภค การปล่อยให้คนส่วนน้อยที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมาทำลายประเทศจึงไม่เป็นธรรมต่อประชาชน และเกษตรกรไทย ที่สำคัญในแง่จิตวิทยา การลักลอบดังกล่าวทำให้ไม่มีแรงจูงใจการลงทุนในประเทศ เกษตรกรไม่กล้าเสี่ยงที่จะเลี้ยงสุกรต่อ เพราะรู้ดีว่าไม่สามารถแข่งขันราคากับเนื้อสุกรต่างประเทศที่มีต้นทุนต่ำกว่าได้อย่างแน่นอน เมื่อภาคผู้ผลิตสุกรถูกทำลาย ย่อมกระทบกับห่วงโซ่การผลิตต่อเนื่อง โดยเฉพาะเกษตรกรผู้เพาะปลูกพืชวัตถุดิบอาหารสัตว์ อาทิ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และข้าว ที่ราคาต้องตกต่ำจากปัญหาการนำเข้าเนื้อสุกรที่ทำลายอุตสาหกรรมเกษตรไทย./
สมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ เลขที่ 201 ม.4 ต.ปรางหมู่ อ.เมือง จ.พัทลุง 93000
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น