กรุงเทพฯ – 31 มกราคม 2562 – โรงเรียนศิลปะการอาหารและผู้ ประกอบการคูลิเนอร์ เผยปัจจัยความสำเร็จในธุรกิ จอาหาร พร้อมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ อนาคตโรงเรียนศิ ลปะการอาหารในประเทศไทย กับความจำเป็นของการมีหลักสู ตรการบริหารจัดการ ที่จะช่วยสร้างความสำเร็จให้ผู้ ประกอบการหน้าใหม่ให้เติบโตอย่ างยั่งยืน
นายแอนโทนี ออสบอร์น ผู้อำนวยการใหญ่ คูลิเนอร์ โรงเรียนศิลปะการอาหารรู ปแบบใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ ณ ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าเอ็มโพเรียม เผยมุ มมองและกระแสความสนใจในการทำอาห ารของคนรุ่นใหม่ รวมถึงเส้นทางสู่การเป็นเชฟมื ออาชีพที่กำลังได้รั บกระแสความนิยม และเคล็ดลับสู่ความสำเร็จทางธุ รกิจอาหารว่า ความนิยมในการเรียนทำอาหารในปั จจุบันมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากคนรุ่นใหม่มีความใฝ่ฝั นในการประกอบอาชีพที่หลากหลายขึ้ น ขณะที่วัยทำงานก็เริ่มมองหาช่ องทางเสริมสร้างรายได้ที่ ตอบโจทย์ทั้งด้านกำไรและความชอบ
หากแต่การที่จะประสบความสำเร็ จบนเส้นทางธุรกิ จการทำอาหารและร้านอาหารนั้น ไม่อาจอาศัยความรักในศิ ลปะการทำอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ควรจำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารจั ดการธุรกิจ ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การจัดการต้นทุน การตลาด การบริหารคน หรือแม้แต่การมองแนวโน้มตลาด เป็นต้น
“โรงเรียนศิลปะการอาหารเข้ามามี บทบาทมากขึ้น เนื่องจากหลายคนไม่ได้เลื อกโรงเรียนศิลปะการอาหารเพี ยงเพราะมี ความสนใจในการทำอาหารเท่านั้น แต่ยังสนใจเรียนทำอาหารเพื่ อนำไปประกอบอาชีพ ตลอดจนเพื่อนำไปต่อยอดทางธุรกิ จอีกด้วย คำว่า อาหารอร่อย อย่างไรแล้วก็ขายได้ คงใช้ไม่ได้อีกต่อไป เพราะด้วยพฤติกรรมของผู้บริ โภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผนวกกับการแข่งขันที่นับวันยิ่ งสูงขึ้น ล้วนแล้วแต่ส่งผลโดยตรงต่ อความอยู่รอดของธุรกิจอาหาร ด้วยเหตุนี้ โรงเรียนศิลปะการอาหารและ ผู้ประกอบการคูลิเนอร์ จึงมองว่า โรงเรียนศิลปะการประกอบอาหาร กับการมีหลักสูตรการทำอาหารเป็ นหัวใจหลักเพียงอย่างเดียวไม่ เพียงพอ เรามองว่าการบริหารจัดการธุรกิ จมีความสำคัญไปไม่น้อยกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็น แนวทางบริหาร วิธีการขยายธุรกิจ วิธีสร้างแบรนด์ การบริหารพนักงาน เป็นต้น” นายแอนโทนี กล่าว
คูลิเนอร์ เป็นหนึ่งในโรงเรียนศิ ลปะการอาหารชั้นนำของประเทศไทย ที่มีการนำหลักสูตรการบริหารจั ดการธุรกิจเข้ามาใช้ในการเรี ยนการสอน หลักสูตรการทำอาหารที่คูลิเนอร์ เป็นมาตรฐานระดับสากล ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ร่วมมือพั ฒนามาจาก Lausanne Hospitality Consulting: LHC หน่วยงานด้านการศึกษาจาก (Ecole Hoteliere de Lausanne : EHL) หนึ่งในสถาบันสอนการโรงแรมที่ดี และมีชื่อเสียงที่สุ ดในโลกจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยมีวิสัยทัศน์ในการ “ให้” มากกว่า “ตำราอาหาร” ผู้ฝึกสอนที่คูลิเนอร์ไม่เพี ยงแต่จะเป็นผู้เชี่ ยวชาญมากประสบการณ์เท่านั้น แต่ทุกคนที่ คูลิเนอร์ มีความต้องการที่จะผลักดันให้นั กเรียนทุกคนประสบความสำเร็ จในเส้นทางความฝันหรือเส้นทางธุ รกิจที่พวกเขาปรารถนา ประเทศไทยมีคนที่มีทั กษะและความสามารถอยู่มากมาย และคูลิเนอร์เชื่อมั่นว่ากลุ่ มคนเหล่านี้สามารถที่จะพัฒนาศั กยภาพไปได้ไกลทัดเทียมระดั บนานาชาติได้ในอนาคต
อาจารย์ ชัชชญา รักตะกนิษฐ ผู้อำนวยการด้านการศึกษา กล่าวเสริมว่า นักเรียนที่ไม่มีประสบการณ์ ตรงในการธุรกิจอาหารสามารถเริ่ มก้าวแรกได้ที่คูลิเนอร์ สิ่งที่นักเรียนจะได้รั บจากโรงเรียนคือความรู้พร้อมใช้ ทั้งความรู้ในตำราและการฝึกปฏิ บัติ ประสบการณ์ที่นักเรียนจะได้รั บตลอดหลักสูตรนี้ จะทำให้พวกเขาพร้อมสำหรับการเริ่ มต้นอาชีพหรือสร้างธุรกิจหลั งจากที่สำเร็จการศึกษา
“คูลิเนอร์มุ่งมั่นที่จะเป็ นโรงเรียนศิลปะการอาหารต้ นแบบในประเทศไทย เราลงทุนกับการสร้างโรงเรียน โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ล่าสุด ที่มาพร้อมกับหลักสูตรเทียบเท่ าระดับสากล เมื่อเปรียบเทียบกับประสบการณ์ และสิ่งที่นักเรียนจะได้รับ ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า คูลิเนอร์เป็นโรงเรียนศิ ลปะการอาหารที่เน้นการเรียนรู้ เชิงปฏิบัติ ตลอดหลักสูตร เวลาส่วนใหญ่มากกว่า 70% ของนักเรียนที่นี่ คือ การลงมือทำ ไม่ใช่การเรียนแบบท่องจำ เรามีหลักสูตรเร่งรัด หรือคอร์สระยะสั้น สำหรับผู้ที่มีความต้องการค้ นหาตัวเองหรือสิ่งที่ตัวเองชอบ หลายๆคนเรียนแล้วรู้สึกว่านี่คื อสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเอง พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะสมัครเรี ยนหลักสูตรประกาศนียบัตรหรือหลั กสูตรระยะยาว 2 ปี” อาจารย์ ชัชชญา เผย
“คูลิเนอร์ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับนั กเรียน นอกจากอุปกรณ์การเรียนด้านฝึ กปฏิบัติที่ครบครัน ทันสมัย และมีมาตรฐานแล้ว เรายังมีการนำนวั ตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาปรับใช้ในห้องเรียน เพื่อความสะดวกต่อทั้งผู้ สอนและผู้เรียนอีกด้วย นักเรียนทุกคนที่คูลิเนอร์จะได้ รับแท็บเล็ตคนละ 1 เครื่อง ทุกอย่างที่นักเรียนเรียนในห้ องเรียน จะถูกส่งตรงจากกระดานอัจฉริยะสู่ แท็บเล็ต นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้นั กเรียนเข้าถึงการเรียนรู้ได้ ตลอดเวลา เพราะที่คูลิเนอร์ เราเชื่อว่า ทุกๆที่คือห้องเรียน” นายแอนโทนี กล่าวปิดท้าย
ที่คูลิเนอร์ การเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ แต่ในห้องเรียนเท่านั้น ทุกพื้นที่ในโรงเรียนถูกจั ดสรรอย่างเป็นสัดส่วน แบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก คือ ห้องเรียนครัวภาคปฎิบัติจำนวน 6 ห้อง ซึ่งแบ่งเป็นห้องสำหรับเบเกอรี่ และเพสทรี่ และห้องสำหรับอาหารคาว ห้องเรียนจำนวน 4 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องได้รับแรงบั นดาลใจในการออกแบบมาจากสีสั นของอาหาร นอกจากนี้ โรงเรียนยังมีพื้นที่ส่วนกลาง อย่างห้องอาหารการ์นิช (Granish) ห้องอาหารเฟลเวอร์ (Flavours) ร้านเบเกอรี่และเพสทรี่เกลซ (Glaze) ที่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้ ามาใช้บริการ ในส่วนนี้นักเรียนจะได้ฝึกทั กษะการปฏิบัติงานจริง ทั้งด้านการให้บริการและการบริ หารจัดการร้าน”
โรงเรียนศิลปะการอาหารและผู้ ประกอบการคูลิเนอร์ เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ ปลายปี พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา โดยมีหลักสูตรทั้งหมด 4 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรประกาศนียบัตร ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 โมดูลหลัก โดยโมดูลสุดท้ายจะเป็นการจั ดการธุรกิจอาหาร หลักสูตรผู้ประกอบการและการบริ หารจัดการ เหมาะสำหรับผู้ที่มีความต้ องการที่จะมีความรู้ความเข้ าใจเพิ่มเติมในเรื่องการบริ หารจัดการธุรกิจอาหารโดยเฉพาะ เพื่อนำไปต่อยอดทางธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรเร่งรัด และหลักสูตรระยะสั้น เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจเรี ยนทำอาหาร แต่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่ อเข้าเยี่ยมชมโรงเรียน หรือสอบถามข้อมูลที่ 02-090-2808 หรือ www.culineur.net
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น