กรุงเทพฯ ประเทศไทย – ต้องยอมรับว่าปัจจุบัน เราทุกคนกำลังเผชิญหน้ากับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
ประเทศเข้าสู่ช่วงที่ทุกคนต้องรัดเข็มขัดทางการเงิน
เริ่มมีการประเมินถึงความจำเป็นในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างไร เรื่องความสวยความงาม
ก็ยังเป็นที่นิยมในสังคม เพื่อเสริมบุคลิกภาพที่ดีและเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งความนิยมนี้ก่อให้เกิดความน่ากังวลเกี่ยวกับการตัดสินใจของผู้บริโภคในการเลือกเข้ารับบริการเสริมความงามที่มีราคาประหยัด
ทำให้อาจจะได้รับสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือประสิทธิภาพน้อยลง และอาจส่งผลต่อการดำเนินชีวิตในอนาคต
“โบทูไลนุ่ม ท็อกซิน” หรือ “โบ” ที่ช่วยในเรื่องของการลดริ้วรอย
ปรับใบหน้าให้กระชับเข้ารูป เสริมความมั่นใจให้กับสาวๆ เป็นนวัตกรรมเสริมความงามที่มีความนิยมสูงในขณะนี้
หากผู้บริโภคไม่ใคร่ครวญให้ดีตัดสินใจเข้ารับบริการโดยเลือกราคาถูกและความรวดเร็วก็อาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการ
“ดื้อโบ” ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตในอนาคตและก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาที่แพงขึ้นกว่าเดิมได้
จากผลการสำรวจ
‘พฤติกรรมการรับบริการฉีดโบทูไลนุม
ท็อกซิน ในกลุ่มตัวอย่างชายและหญิงไทย’ โดย NUMBERS 10 RESEARCH
พบว่า ใน 1 ปี มีผู้รับบริการโบทูไลนุม ท็อกซิน ประมาณ 3,500,000 คน ต่อปี และมีอัตราส่วนของคนในกลุ่มอายุ
25 – 29 มากที่สุด คือ 36%[1] ขณะที่ เมิร์ซ เอสเธติกส์ ผู้นำนวัตกรรมความงามจากเยอรมัน ทำการสำรวจโดยวิธีการออนไลน์ ในแพทย์จากคลินิกความงาม จำนวน 107 คน เมื่อเดือนเมษายน ปี 2561 พบว่าแพทย์ 8 ใน 10 คน เคยพบคนไข้ที่มีอาการดื้อโบมาแล้ว โดยอาการ คือ เกือบ 90% ผลการรักษาไม่เหมือนเดิม และ มากกว่า 60% แพทย์ใช้วิธีการเปลี่ยนแบรนด์[2]
25 – 29 มากที่สุด คือ 36%[1] ขณะที่ เมิร์ซ เอสเธติกส์ ผู้นำนวัตกรรมความงามจากเยอรมัน ทำการสำรวจโดยวิธีการออนไลน์ ในแพทย์จากคลินิกความงาม จำนวน 107 คน เมื่อเดือนเมษายน ปี 2561 พบว่าแพทย์ 8 ใน 10 คน เคยพบคนไข้ที่มีอาการดื้อโบมาแล้ว โดยอาการ คือ เกือบ 90% ผลการรักษาไม่เหมือนเดิม และ มากกว่า 60% แพทย์ใช้วิธีการเปลี่ยนแบรนด์[2]
รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง รังสิมา วณิชภักดีเดชา ภาควิชาตจวิทยา
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “การดื้อโบ โดยทั่วไปไม่ได้อันตรายถึงชีวิต
เพียงแต่จะทำให้เวลาที่เราให้สารโบทูไลนุ่ม ท็อกซิน เพื่อการรักษานั้น ร่างกายจะไม่แสดงผลลัพธ์ออกมาเท่าที่ควรหรืออาจจะไม่แสดงผลเลย
ซึ่งมีผลต่อการรักษาโรคต่างๆ อาทิ ภาวะความผิดปกติที่เกิดจากการทำงานมากเกินของกล้ามเนื้อ
อาการปวดศีรษะแบบไมเกรน โรคคอบิด หรืออาการหน้ากระตุก เป็นต้น
หรือผลต่อการลดริ้วรอยหรือปรับรูปหน้าซึ่งเป็นที่นิยมกันในปัจจุบัน อาจจะทำให้หลายท่านต้องเสียเงินและเวลาฟรี
แต่ก็ยังมีวิธีแก้ไข นั่นคือการหยุดใช้สารโบทูไลนุ่ม ท็อกซิน เป็นเวลานาน
จนกว่าร่างกายจะหยุดหรือลดการผลิตสารต่อต้านลง หรือสำหรับใครที่เพิ่งจะมีอาการดื้อโบในระยะเริ่มแรก
และยังไม่อยากหยุดใช้สารโบทูไลนุ่มท๊อกซิน ก็สามารถเปลี่ยนไปใช้สารโบทูไลนุ่ม
ท็อกซิน ที่มีความบริสุทธ์สูง เพื่อไม่ให้เกิดการกระตุ้นสารที่ร่างกายผลิตออกมาเพื่อต่อต้าน
และเมื่อเวลาผ่านไปสารที่ต่อต้านในร่างกายก็จะลดการผลิตลงด้วย”
ท่ามกลางเศรฐกิจที่เรากำลังเผชิญ จึงมี 3 คำเตือน ที่สาวๆควรรู้
ก่อนเลือกเสริมความงามด้วย โบทูไลนุ่ม ท็อกซิน เพื่อให้ทุกคนได้สวยอย่างมีคุณภาพและปลอดภัย
ป้องกันการดื้อโบในอนาคต
1. อย่าเลือกแต่ของถูก
ช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ ผลิตภัณฑ์ใดๆที่มีราคาที่ถูกว่ามักจะถูกเพ่งเล็งมากกว่า
แต่สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการเสริมความงามเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้จะมีคุณภาพที่ดีและไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงตามมาอย่างการ
‘ดื้อโบ’ หรือไม่
เราจึงควรเลือกโบทูไลนุ่ม ท็อกซินที่มีขนาดโมเลกุลเล็กและบริสุทธิ์
มีความปลอดภัยสูง เพื่อลดโอกาสของการผลิตสารต่อต้าน และเห็นผลลัพธ์ได้ดีที่สุด อย่าง
“โบเยอรมัน By Merz
Aesthetics” นวัตกรรมคุณภาพระดับพรีเมี่ยมจากเยอรมัน ซึ่งเป็นโบบริสุทธิ์ ปราศจากคอมเพล็กซิ่งโปรตีน
ได้รับการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัย
โดยการขึ้นทะเบียนในสหรัฐอเมริกาและมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก เมื่อใช้ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน
จะมีโอกาสก่อให้เกิดการดื้อโบต่ำ และช่วยลดโอกาสการดื้อโบในอนาคตได้ มอบความสวยที่ปลอดภัยและคุ้มค่าอย่างแท้จริง
2. อย่ารีบจนเกินควร
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญและควรคำนึงถึง คือ การเลือกรับบริการเสริมความงามกับสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ
ได้รับการรับรอง และมีแพทย์ที่เชี่ยวชาญ มีเทคนิคที่ดี และใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเท่านั้น
เพื่อประสิทธิภาพและลดผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น หากรีบร้อนเกินไปและตัดสินใจเข้ารับบริการคลินิกที่ไม่น่าเชื่อถือ
หรือเป็นหมอกระเป๋าตามคอนโดและรถตู้ ที่มีราคาถูกและรวดเร็ว อาจจะทำให้ได้รับการบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน
หรือผลลัพธ์ที่ออกมาไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
จนถึงขั้นอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงตามมา อย่าง ‘ดื้อโบ’ หรือร้ายแรงกว่านั้น โดยสถานที่เหล่านี้จะไม่มีความปลอดภัยมากพอ
เพราะไม่ได้เตรียมอุปกรณ์สำหรับการช่วยชีวิตไว้ ดังนั้นเราจึงควรค่อยๆศึกษาข้อมูลของคลินิกเสริมความงามให้ดี
มีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เชื่อถือได้ ก่อนการตัดสินใจ
3. อย่าถี่จนเกินไป
โดยปกติแล้ว หากเข้ารับบริการเสริมความงามด้วยโบทูไลนุ่ม ท็อกซิน ที่มีความบริสุทธิ์และมีคุณภาพ
ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึงประมาณ 6 เดือน ดังนั้น จึงควรเข้ารับบริการแต่พอดี ประมาณ 6
เดือนต่อครั้ง หรือไม่ควรเกินปีละ 3 - 4 ครั้ง โดยใช้ปริมาณยาที่พอประมาณ คือ ไม่ควรเกินครั้งละ
100 ยูนิต แต่หากใช้โบที่มีความบริสุทธ์ต่ำ แล้วต้องเข้ารับการบริการบ่อย ๆ เนื่องจากผลลัพธ์อยู่ได้ในระยะเวลาที่สั้นลง
หรือต้องเพิ่มปริมาณยาหรือเปลี่ยนตัวยาเพราะผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเหมือนเดิม
นั่นหมายความว่าคุณมีอาการดื้อโบ และหากยังคงมีพฤติกรรมเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จะทำให้เกิดการดื้อต่อทุกผลิตภัณฑ์
ซึ่งต้องแก้ไขด้วยการหยุดอย่างน้อยสองปี แล้วค่อยกลับมาตรวจเช็คกันใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เราดื้อโบ
และมีความสุขที่จะเสริมความงามอย่างต่อเนื่อง
จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีและใช้ในประมาณที่เหมาะสม
ไม่ว่าเศรษฐกิจของเราจะเป็นเช่นไร แต่ความสวยอย่างปลอดภัยยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญ
เราจึงควรศึกษาข้อมูลให้ดี โดยยึด 3 คำเตือนนี้ในการตัดสินใจ เพื่อให้เราสวยอย่างมีคุณภาพ
สวยอย่างมั่นใจและมีความสุขในการใช้ชีวิตได้อย่างแท้จริง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและค้นหาคลินิกให้บริการ
‘โบบริสุทธิ์’ ได้ที่ www.merzclubthailand.com
หรือ ติดตามข่าวสารที่ Facebook:
MerzAestheticsThailand
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น