“สยามเฮลท์
กรุ๊ป”เปิดฉากสู้วิกฤติเศรษฐกิจ-ไวรัสโควิด-19 งัดกลยุทธ์ใหม่ Planet
Marketing รับสมรภูมิ Digital
disruption ตอกย้ำแบรนด์ “เดนทิสเต้-สมูทอี” ส่ง 2
สินค้าเรือธงกระตุ้นยอดขายเร่งอัตราเติบโต เปิดตัวแคมเปญโฆษณาสร้างกระแสไวรัล Dentiste' Mouth Spray Extra Fresh เพราะคนที่คุณรักอาจตายได้ ด้าน Smooth-E Cleansing oil with
serum หยิบประเด็นเหยื่อผู้หญิงที่ถูกทำร้าย
สร้างสรรค์สังคม มั่นใจกระแทกเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบโดนใจ เผยออกสื่อโซเชียล 7
วันแรก แชร์กระหน่ำ 2 ล้านวิว บิ๊กบอสโชว์ยอดขายปี 62 ยังเติบโต ลุยปี 63
พุ่งไม่ต่ำกว่า 10 - 15% จ้างเอเจนซี่ระดับโลกลุยส่งออก
ภก.ดร.แสงสุข พิทยานุกุล
กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก “เดนทิสเต้” (Dentiste) และผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
“สมูท-อี” (Smooth-E) เปิดเผยว่า ในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังวิกฤติหนัก
เจอปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส”โควิด-19” และสมรภูมิการตลาดในโลกยุค
Digital disruption การเจาะตลาดกลุ่มคน Gen Y หรือ Gen Z หรือคนอายุต่ำกว่า 30 ปี ต้องใช้กลยุทธ์แตกต่างจากยุค 10 ปีที่แล้ว ซึ่งการตลาดแบบ
4P ไม่เพียงพอ ต้องมีอีก 3P ซึ่งมีอิทธิพลมากขึ้นทุกวัน คือ People, Profit
และ Planet เพื่อสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและขยายความรับผิดชอบให้เกิดสมดุลของโลกธุรกิจ
ทั้งผลกำไร ผู้คน และโลกใบนี้
บริษัทใช้เวลาศึกษาและตัดสินใจใช้กลยุทธ์การตลาดแนวใหม่เปิดตัวสินค้าใหม่
ทั้งกลุ่มแบรนด์เดนทิสเต้และสมูทอี โดยทำการตลาดรูปแบบ Planet
Marketing กระตุ้นการรับรู้เกี่ยวกับประเด็นในสังคมที่หลายคนอาจมองข้ามให้เป็นเรื่องน่าสนใจ
ทำให้ผู้ที่ได้รับชมภาพยนตร์โฆษณาชื่นชอบแล้วแชร์ต่อเป็นทอดๆ
ไม่จำเป็นต้องใช้การส่งเสริมการขายที่มีต้นทุนสูง แต่ได้ผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ
ถือเป็นการเปลี่ยนโลกทัศน์การทำตลาด ทั้งในระดับ Regional และ
Global
ที่สำคัญ Planet Marketing ไม่ใช่แค่การทำเพื่อเพิ่มยอดขาย
แต่บริษัทมีจุดประสงค์คืนกำไรและสิ่งดีๆสู่สังคม ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้แก่ผู้ที่ได้รับชมภาพยนตร์โฆษณาและสื่อให้เห็นว่า
ถ้าเปลี่ยนความคิดแล้ว โลกจะดีขึ้น เป็นประโยชน์แก่สังคม โดยสร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาขึ้นมา
2 ชุด
ได้แก่ ภาพยนตร์โฆษณาของ Dentiste'
Mouth Spray Extra Fresh คอนเซ็ปท์ “เพราะคนที่คุณรักอาจตายได้ รักเค้า ห่วงเค้า บอกเค้า บอกเค้า!! DENTISTE'
MOUTH SPRAY EXTRA FRESH” เป็นแคมเปญที่อยากส่งเสริมให้ผู้คนกล้าเตือน
กล้าบอกผู้อื่นว่ากลิ่นปากไม่ใช่แค่เรื่องกลิ่นปาก หรือปัญหาเพียงเล็กน้อย แต่เป็นสิ่งที่ควรใส่ใจและไม่ปล่อยผ่าน
ต้องการเปลี่ยนแปลงความคิดว่าการเตือนไม่ใช่ทำให้อาย แต่ควรดีใจที่มีคนกล้าบอก
กล้าเตือนเพราะเขารักเรา
ส่วนภาพยนตร์โฆษณาอีกตัวเป็นการเผยโฉมสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์สมูทอี
คือ Smooth-E Cleansing oil with
serum โดยหยิบยกประเด็นปัญหาผู้หญิงจำนวนมากถูกทำร้ายและ 83%
ของผู้หญิงที่ถูกทำร้าย เลือกที่จะปกปิดและไม่บอกใคร ซึ่งแคมเปญทั้งสองชุดเป็นกลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่ที่สื่อสารข้อมูลกับกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์
“Planet คือโลกสมัยใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสินค้าและบริษัทที่ทำเรื่องดี
เช่น ช่วยเรื่องรักษ์โลก แก้โลกร้อน
ช่วยกันสร้างสรรค์โลกในหลายๆด้าน
ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่บริษัททำต่อเนื่องมาระยะหนึ่งแล้วและผู้บริโภคยุคใหม่มีพฤติกรรมการบริโภคสินค้าจาก
Story Telling มีภาพยนตร์โฆษณาเป็นสื่อกระจายส่งต่อข่าวสารอย่างรวดเร็ว
มีประสิทธิภาพ ต้นทุนไม่สูงและสร้างยอดขายได้ กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน”
ภก.ดร.แสงสุข ยังกล่าวถึงผลประกอบการปี 2562 ว่า บริษัทสามารถประคองรายได้และผลกำไร
อัตราเติบโต 15% ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจและภาพรวมตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่ยังชะลอตัว
ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญ ทำให้บริษัทกลับมาทำการตลาดแบบ
Segmentation, Mixed Marketing และการทำ Emotional
Marketing เพื่อตอกย้ำ Positioning การเป็นสินค้ากลุ่มยาเพื่อสุขภาพ
เน้นการสร้าง Healthy relationship ภายใต้วิสัยทัศน์สำคัญ
คือ การเป็นบริษัทชั้นนำด้านสินค้าสุขภาพและความงามระดับเวิลด์คลาส
สำหรับเป้าหมายในปี 2563 บริษัทเร่งขยายช่องทางการจำหน่ายใหม่ๆและใช้การตลาดรูปแบบใหม่
ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อรุกฐานผู้บริโภคกลุ่มใหม่ รวมทั้งลุยตลาดต่างประเทศ
ซึ่งแบรนด์เดนทิสเต้กำลังเดินหน้าต่อเนื่อง
มีการจ้างเอเจนซี่แบรนด์ระดับโลกที่เคยวางแผนให้แบรนด์ยักษ์ใหญ่ โดยล่าสุด
สินค้ากลุ่มแบรนด์ “เดนทิสเต้” สามารถเจาะตลาด
25 ประเทศ และมีแนวโน้มเติบโตชัดเจน ทั้งในญี่ปุ่น เกาหลี
ซึ่งวิธีการทำมาร์เก็ตติ้งแนวใหม่เป็นจังหวะที่ดีมาก
คาดภาพรวมของกลุ่มสยามเฮลธ์กรุ๊ปจะมีอัตราเติบโตไม่ต่ำกว่า 20%
ข้อมูลทั้งหมดต้องการกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายเปลี่ยนแนวคิดจากที่เคยคิดว่า
กลิ่นปากเป็นเรื่องเล็ก
แท้ที่จริงเป็นปัญหาใหญ่และเดนทิสเต้มีสินค้าที่สามารถแก้ปัญหาตรงจุด เนื่องจาก DENTISTE'
MOUTH SPRAY EXTRA FRESH มี Clove oil มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
และ Post biotic 2 ชนิด
จัดการแบคทีเรียที่อยู่ลึกลงไปและปรับสมดุลลำไส้ เป็นผลิตภัณฑ์กำจัดกลิ่นปากที่ยกระดับลมหายใจให้พรีเมี่ยมภายในเวลาเพียง
3 วินาที
ขณะที่ ศิวกร พิทยานุกุล Product
Manager ย้ำถึงแคมเปญ Smooth-E Cleansing oil with serum เพื่อเน้นความสำคัญของการชำระล้างอย่างหมดจดเหมือนการกล้าเปิดเผยปัญหาต่างๆ
ว่า สมูทอีใช้เวลาศึกษามาเป็นเวลานาน และพบว่า 83% ของผู้หญิงที่ถูกทำร้ายเลือกที่จะปกปิด
เพราะอายที่จะบอกใคร โดยตั้งเป้าหมายเปลี่ยนแปลงความคิดของสังคม
ให้ผู้หญิงที่ถูกทำร้ายกล้าเปิดเผย ทำให้รู้ว่าพวกเขามีทางเลือกอื่น
นอกจากการปิดบังคนรอบข้าง โดยการเปิดเผยให้คนรอบข้างรู้ เพื่อช่วยบรรเทาความทุกข์
ไม่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวและต่อสู้กับปัญหาเพียงลำพัง
ทั้งนี้ แคมเปญโฆษณาดังกล่าวได้ผลเกินคาด
โดยเฉพาะสมูทอี เปิดตัวโฆษณาเพียง 7 วันแรกผ่านสื่อโซเชียล
มีผู้คนแชร์ต่ออย่างรวดเร็วมากกว่า 1.8 -2 ล้านวิวไม่เคยเกิดขึ้นและเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ทั้งคลิกดู แชร์ คอมเม้น
ซึ่งคอมเมนท์ของทุกคน ทำให้คนที่ถูกทำร้ายอีกจำนวนมากที่มีหลักฐานการถูกทำร้าย กล้าเปิดเผย
แชร์ต่อว่าเคยไปเจออะไรมา รอยเย็บ รอยช้ำ บาดแผล อยากเอามาแชร์ให้คนอื่น ถือเป็นสิ่งที่ดี เป็นสัญญาณที่ดีมากของการได้ช่วยเหลือสังคม
ล่าสุด บริษัทได้เร่งกระจายสินค้า ทั้ง Dentiste'
Mouth Spray Extra Fresh และ Smooth-E Cleansing oil with
serum ในช่องทางต่างๆอย่างครอบคลุม
ทั้งกลุ่มร้านขายยา โดยเฉพาะร้านขาย P&F ของสยามเฮลธ์กรุ๊ปทั้ง
70 สาขาทั่วประเทศและร้านโมเดิร์นเทรดชั้นนำ
อนึ่ง บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป ผู้ผลิตและปลุกปั้นแบรนด์ สมูทอี (Smooth-E) เวชสำอางจากธรรมชาติ
รักษารอยแผลเป็น ไร้สิว ไร้ริ้วรอย ลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว รอยแผลเป็น กระจ่างใส
ที่หมอแนะนำ จนเป็นที่ยอมรับของกลุ่มผู้บริโภค
ทั้งในประเทศและต่างประเทศมานานมากกว่า 20 ปี
และถือเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาด
ปัจจุบันมีสินค้าในกลุ่มเวชสำอางและสินค้าส่วนบุคคล ได้แก่ สมูทอี(Smooth-E)
และผลิตภัณฑ์สำหรับช่องปากเดนทิสเต้(Dentiste’) ภายใต้วิสัยทัศน์สำคัญ คือ
การเป็นบริษัทชั้นนำด้านสินค้าสุขภาพและความงามระดับเวิลด์คลาส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น