TikTok พลิกโฉมวงการเพลงไทย ปล่อยแคมเปญ #TikTokTunes หนุนส่งศิลปินไทยโกอินเตอร์ - Today Updatenews

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2563

TikTok พลิกโฉมวงการเพลงไทย ปล่อยแคมเปญ #TikTokTunes หนุนส่งศิลปินไทยโกอินเตอร์


กรุงเทพฯ - 20 มีนาคม 2563 : TikTok แพลตฟอร์มสร้างสรรค์วิดีโอสั้นชั้นนำระดับโลก เตรียมสร้างจุดเปลี่ยนสำคัญให้กับวงการเพลงไทย พลิกวิกฤต เป็นโอกาสให้ทั้งศิลปินอาชีพและมือสมัครเล่นได้แจ้งเกิดผลงานเพลงของตัวเอง เพื่อปูทางสู่การเป็นศิลปินระดับโลกกับแคมเปญ #TikTokTunes ที่เชิญชวนเหล่าครีเอเตอร์ ศิลปิน และนักแต่งเพลง ร่วมส่งผลงานเพลงเพื่อโอกาสในการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งใน Music Playlist ของ TikTok ที่มีผู้ใช้มากกว่า 2 ล้านคนต่อเดือน พร้อมโอกาสอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ในฐานะแพลตฟอร์มยอดนิยมระดับโลก TikTok ได้ส่งเสริมให้ผู้ใช้ สร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอสั้นที่หลากหลายด้วยฟีเจอร์การใช้ที่ครบครันและง่ายดาย ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอ ตกแต่ง ด้วยเอฟเฟคต่างๆ และแชร์วิดีโอนั้นได้อย่างสนุกสนานบนแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ TikTok ยังเป็นเหมือนคลังที่รวบรวมเพลงลิขสิทธิ์มากมายหลายล้านเพลง รวมไปถึงซาวด์เอฟเฟกต์, บทสนทนา และอื่นๆ อีกมากมายที่เหล่าครีเอเตอร์สามารถเข้าไปค้นหาและเลือกใช้เพลงเหล่านั้นในการสร้างสรรค์วิดีโอสั้นโดยไม่ต้องกังวลในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์

บนแพลตฟอร์มนี้เอง ยังเป็นพื้นที่สำหรับการเปิดตัวเพลงซิงเกิลใหม่ของศิลปินหลายต่อหลายคน ดังจะเห็นได้จากเพลงดังที่กลายเป็นกระแสโด่งดังหลายๆ เพลงนั้น ต่างก็เริ่มต้นเปิดตัวบน TikTok ก่อนจะกลายเป็นกระแสและขยาย ความนิยมไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ ศิลปินหลายรายที่ประสบความสำเร็จมาแล้วบนแพลตฟอร์มนี้ในต่างประเทศ เช่น เพลง Old Town Road” ของ Lil Nas X ส่วนในประเทศไทย เราคุ้นหูกันดีกับเพลง “เลิกคุย ทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว” ของ ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น นับเป็นซิงเกิลเพลงยอดนิยมที่เดบิวต์เพลงบน TikTok ก่อนจะเกิดกระแสกลายเป็นไวรัลโด่งดังไปทั่วประเทศ และเพลงดังล่าสุดกับเพลง “วิบวับ” ของ ป๊อก Mindset ซึ่งกำลังเป็นแทรคสุดฮอตหลังจากเปิดตัวเพลงพร้อมท่าเต้นบน TikTok เมื่อไม่นานมานี้

นางสาวลักศมี จง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาคอนเทนต์และแคมเปญ ของ TikTok ได้กล่าวถึงที่มาของ  #TikTokTunes ว่า แคมเปญนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจของทีมประเทศไทยในการสร้างสรรค์แคมเปญที่สามารถตอบโจทย์ Ecosystem ของ TikTok ได้อย่างทั่วถึงทั้งกลุ่มผู้ใช้ ครีเอเตอร์ และศิลปิน ในการใช้แพลตฟอร์ม TikTok เพื่อเป็นเวทีให้ศิลปินได้แจ้งเกิดผลงานเพลงบนแพลตฟอร์มที่กำลังมาแรง ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้หรือครีเอเตอร์ก็จะมีเพลงให้เลือกใช้มากยิ่งขึ้นในการสร้างสรรค์คอนเทนต์สนุกสนานต่างๆ ซึ่งภายหลังจากที่ได้เปิดตัวแคมเปญ #TikTokTunes ไปประมาณ 1 เดือน ก็ได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดี และมีผลงานเพลงส่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก

สำหรับแคมเปญ #TikTokTunes เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และจะยังคงเปิดรับเพลงต้นฉบับจากศิลปินถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ โดยเปิดกว้างสำหรับครีเอเตอร์ทุกคนไม่ว่าจะเป็นศิลปินสมัครเล่นหรือมืออาชีพ          ฟรีแลนซ์หรือศิลปินที่มีสังกัดจากค่ายเพลงก็สามารถเข้าร่วมแคมเปญนี้ได้ และไม่จำกัดอายุของผู้เข้าร่วมแคมเปญ โดยครีเอเตอร์ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครอง นอกจากนี้ครีเอเตอร์แต่ละคนสามารถ ส่งผลงานเพลงได้ไม่จำกัดจำนวน โดยเพลงที่ส่งมาจะถูกคัดเลือกตามเกณฑ์ที่กำหนดทั้งเนื้อร้องจะต้องมีเนื้อหาที่เหมาะสม และเกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์ม มีทำนองเพลงรื่นหู ฟังง่าย และโดนใจผู้ฟัง เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะได้กลายเป็นกระแสความนิยม ขณะเดียวกันครีเอเตอร์เองก็ยังคงได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในผลงานของตัวเอง โดยยินยอมให้ TikTok โปรโมทและเผยแพร่ผลงานในนามของพวกเขา

นายศุภวัฒน์ พีรานนท์ หัวหน้าฝ่ายมิวสิคของ TikTok กล่าวว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยโปรโมทเพลง       ให้แก่ศิลปินได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยอัลกอริทึมของแมชชีน เลิร์นนิง (Machine-learning) ที่สนับสนุนให้ครีเอเตอร์และคอนเทนต์ของพวกเขามีโอกาสเข้าถึงผู้ชมจำนวนมากได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องมีผู้ติดตามจำนวนมาก ซึ่งนับเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับวิดีโอและเพลงที่จะเกิดกระแสความนิยมได้อย่างรวดเร็ว เพราะเมื่อเพลงเริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับการชื่นชอบมากขึ้น ครีเอเตอร์คนอื่นๆ จะนำเพลงไปสร้างสรรค์คอนเทนต์อื่นๆ ต่อไปได้อีกมากมาย ทำให้จากหนึ่งเพลงฮิตจะถูกเชื่อมโยงไปสู่วิดีโอยอดฮิตอื่นๆ อีกนับล้านๆ วิดีโอ เรียกได้ว่าเป็นการโปรโมทเพลงในแบบ multi-viral ที่แท้จริง

"นอกจากนี้เรากำลังจะสร้างนิยามใหม่ให้กับการแจ้งเกิดของศิลปิน เพื่อก้าวไปสู่การมีชื่อเสียงในระดับอินเตอร์ให้ได้ผ่านแคมเปญ #TikTokTunes โดยมีเป้าหมายในการยกระดับความสำเร็จของศิลปินในบ้านเรา ซึ่งก็เป็นที่น่าภูมิใจอย่างมากที่แคมเปญนี้ริเริ่มขึ้นมาโดยทีมไทย และเปิดตัวแคมเปญครั้งแรกในประเทศไทยในฐานะเป็นตลาดนำร่องในเชิง กลยุทธ์" นายศุภวัฒน์กล่าว

ทั้งนี้ นายศุภวัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า เราอยากเห็นผลงานของเหล่าครีเอเตอร์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อที่จะพิจารณาผลงานเพลงที่จะทำกันในทุกสัปดาห์ และเผยแพร่ผลงานเพลงเหล่านั้นผ่านแคมเปญ #TikTokTunes ในทันที โดยเรายังมีแผนสนับสนุนศิลปินต่างๆ ในระยะยาวเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างความสำเร็จให้กับพวกเขา เช่น การเชิญไปออกงานอีเว้นท์ คอนเสิร์ต ตลอดจนกิจกรรมมีทแอนด์กรี๊ทซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว ครีเอเตอร์บน TikTok จะสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองในการสร้างรายได้ให้กับตัวเอง เมื่อผลงานของพวกเขาถูกนำไปใช้ต่อในวงกว้าง

“สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้อาจมองได้ว่าเป็นเหมือนการสร้างเส้นทางใหม่ให้กับศิลปินทั้งการเปิดตัวเพลงใหม่และการแจ้งเกิดของศิลปินหน้าใหม่ จากเดิมการแจ้งเกิดในตลาดเพลงได้นั้น ส่วนใหญ่ศิลปินจะต้องมีค่ายสังกัดเป็นผู้ผลักดัน แต่สำหรับ TikTok เรากำลังจะสร้างจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้กับวงการเพลง และทำให้เกิดความหลากหลายมากขึ้นในวงการเพลง โดยมุ่งมั่นที่จะให้อิสระทางความคิดสร้างสรรค์กับเหล่าครีเอเตอร์ที่มีความคิดริเริ่ม เราจะไม่เข้าไปแทรกแซงหรือเซนเซอร์ผลงานของพวกเขา ซึ่งจะทำให้เหล่าครีเอเตอร์หรือศิลปินจะยังคงความเป็นตัวตนในแบบฉบับของตัวเอง ขณะที่ TikTok ก็จะเป็นช่องทางสำคัญในการเผยแพร่ผลงานของพวกเขาไปสู่กลุ่มผู้ฟังที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั่วโลก โมเดลครีเอเตอร์ในแบบของ TikTok นี้ จึงมีประโยชน์อย่างมากกับศิลปินเพลงเนื่องจากเป็นการสนับสนุนให้ทุกคนได้ค้นหาและเข้าใจตัวเอง สร้างสรรค์ผลงานของตัวเองออกมา และแจ้งเกิดเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ นำไปสู่การเป็นศิลปินอาชีพสามารถหารายได้ให้กับตัวเองได้ในที่สุด"

ดังจะได้เห็นจากตัวอย่างของครีเอเตอร์ที่ประสบสำเร็จมาแล้วบน TikTok นั่นคือ  LEGENDBOY (ID: @mrchinphat) ชายหนุ่มผู้ที่เริ่มต้นจากการเป็นศิลปินอินดี้ จนสามารถเปิดตัวเป็นนักร้องอาชีพได้หลังจากเข้ามาสร้างสรรค์ผลงานใน TikTok โดยก่อนเข้ามาร่วมกับ TikTok นั้น เขามีผู้ติดตามบน YouTube มาแล้วราว 31,000 คน และมีผู้ติดตามบนเพจ Facebook อีกเพียง 56 คน แต่เพียงแค่ 6 เดือน หลังจาก LEGENDBOY เข้าร่วมกับ TikTok พบว่า เขามีแฟนคลับที่เหนียวแน่นเพิ่มขึ้น และมีจำนวนผู้ติดตามเพิ่มขึ้นในทุกช่องทาง ทั้งทาง YouTube พบว่ามีผู้ติดตามเพิ่มเป็น 1 ล้านคน และบน  Facebook ติดตามเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัวเป็นกว่า 8,000 คน ส่วนบน TikTok มีผู้กดไลค์กว่า 181,500 คน และผู้ติดตามอีก 41,700 คน จำนวนตัวเลขกลุ่มแฟนคลับที่เติบโตขึ้นมานั้นพิสูจน์ให้เห็นว่า แรงส่งที่เกิดขึ้นจากแพลตฟอร์ม TikTok ที่ไม่เพียงมีอิทธิพลเฉพาะแต่ในแพลตฟอร์มเดียวเท่านั้น แต่ยังส่งอิทธิพล ไปสู่แพลตฟอร์มอื่นๆ  ได้อีกด้วย

"หลังจากการเปิดตัวแคมเปญ #TikTokTunes ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เราพบว่ามีผลตอบรับที่ดีมากจากเหล่าครีเอเตอร์ ซึ่งการที่เราส่งเสริมให้ศิลปินและครีเอเตอร์เข้าร่วมแคมเปญนี้เพราะมองเห็นว่าตลาดออฟไลน์สำหรับศิลปินเพลงในปัจจุบันมีความไม่แน่นอนสูง เช่น สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบันนี้ ทำให้บรรดาศิลปินเพลงได้รับผลกระทบ ไม่สามารถออกทำการแสดงและเดินทางทัวร์คอนเสิร์ตได้ แต่แพลตฟอร์มออนไลน์นั้นยังคงใช้ได้อยู่ตลอดเวลา การใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อนำเสนอผลงานของศิลปินจึงเป็นทางเลือกที่สำคัญ และเชื่อว่าจะกลายเป็นโอกาสที่พวกเขาจะสามารถสร้างรายได้ใหักับตัวเองผ่านการใช้ความคิดสร้างสรรค์" นายศุภวัฒน์กล่าวสรุป

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ทาง #TikTokTunes

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad