วายแอลจี วิเคราะห์ประเด็นส่วนต่างการซื้ อ-ขายทองคำแท่งเพิ่มเป็น 300 บาท จากเดิมอยู่ที่ 100 บาทเป็นไปตามส่วนต่ างราคาทองคำแท่งในตลาดโลกที่กว้ างขึ้น หลังจากโรงงานสะกัดทองคำในสวิ ตเซอร์แลนด์ระงับการผลิตชั่ วคราวจากผลกระทบ COVID – 19 ส่งผลนักลงทุนถื อสถานะขายทำการปิดสถานะพร้อมกั บทำการซื้อคืนเหตุกังวลไม่มี ทองคำส่งมอบตามกำหนด แนะนักลงทุนในประเทศปรับกลยุทธ์ การลงทุนเป็นถือยาวมากขึ้นรอส่ วนต่างที่เหมาะสมก่อนขายทำกำไร ปรับจากเดิมทำกำไรระหว่างวันเป็ นการลงทุนระยะสัปดาห์ ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ ยงได้น้อยแนะนำชะลอการลงทุน สำหรับนักลงทุ นระยะกลางระยะยาวจับจั งหวะหากราคาไม่หลุด 1,554 ดอลลาร์ต่อออนซ์หาจังหวะเก็บเพื่ อรอขายตอนดีดกลับทดสอบแนวต้ านโซน 1,671-1,703 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่ งรายใหญ่ของไทยเปิดเผยว่า เปิดเผยว่าจากที่สมาคมค้ าทองคำได้ ประกาศการกำหนดราคาทองคำแท่ งขายออก และราคาทองคำแท่งรับซื้อคืนมีส่ วนต่าง 300 บาท จากเดิมอยู่ที่ 100 บาท เพื่อให้การซื้ อขายทองคำภายในประเทศ ยังสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่ างมีประสิทธิภาพแม้ว่าจะได้รั บผลกระทบจากการระบาดของ COVID – 19 ที่ทำห่วงโซ่อุปทานทองคำทั่ วโลกหยุดชะงัก เนื่องจากจากการระบาดของ COVID-19 นั้นส่งผลให้เที่ยวบินระหว่ างประเทศถูกยกเลิก จึงกระทบกับการขนส่งทองคำ ไม่เพียงเท่านั้นโรงสกั ดทองรายใหญ่ที่อยู่ในเมืองทิซิ โน ของสวิสเซอร์แลนด์ซึ่งอยู่ใกล้ พรมแดนอิตาลี ที่ผลิตทองคำราว 1,500 ตันต่อปี หรือ คิดเป็น 1 ใน 3 ของปริมาณการผลิตทั่วโลก ถูกสั่งระงับการผลิตชั่วคราวเพื่ อยับยั้งการระบาด COVID-19 ไปถึงวันที่ 29 มี.ค. และ 5 เม.ย. ดังนั้นจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้ นทำให้ผู้ค้าทองคำ,ซัพพลายเออร์ และผู้ผลิตที่ถือสถานะขาย(Short ) ในสัญญาฟิวเจอร์สทองคำตลาด COMEX เกิดความวิตกว่าอาจจะไม่ สามารถส่งมอบทองคำตามกำหนดได้ จึงเกิดการปิดสถานะขายด้ วยการทำธุรกรรมฝั่งตรงข้าม คือ การซื้อคืน จึงเป็นที่มาที่ทำให้ส่วนต่ างระหว่าง สัญญาฟิวเจอร์สทองคำตลาด COMEX กับ Gold Spot กว้างมากขึ้น
ขณะที่มาตรการ Lockdown ในประเทศกระทบการกำหนดราคาในตลา ดทอง OTC ลอนดอน พร้อมกันนี้ความเสี่ ยงจากการขนส่งทองคำ ความเสี่ยงจากการนำเข้า-ส่งออก และความเสี่ยงอันเนื่ องมาจากการระงับการผลิตชั่ วคราวของโรงสกัดทองส่งผลให้ส่ วนต่างราคาซื้อ-ขาย ของราคาทองคำแห่งในตลาดโลกกว้ างมากกว่า 20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ดังนั้น เมื่อส่วนต่างการซื้ อขายของราคาทองคำในตลาดโลกเพื่ อสูงขึ้น ย่อมส่งผลให้ส่วนต่างราคาซื้ อขายของราคาทองคำในประเทศเพิ่ มมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ตามส่วนต่างราคาที่เพิ่ มขึ้น ย่อมจะเป็นอุปสรรคสำหรับนักลงทุ นระยะสั้นที่จะเผชิญปัญหา เมื่อซื้อแล้วต้องรอการปรับตั วขึ้นของราคาทองคำมากยิ่งขึ้นจึ งจะสามารถขายทำกำไรได้ ตามปกติแล้วหากค่าเงินบาทคงที่ เมื่อราคาทองคำในตลาดโลกขยับขึ้ น-ลง 1 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศขยั บขึ้น-ลงประมาณ 10-15 บาทต่อบาททองคำ กรณีปัจจุบันส่วนต่างเพิ่มขึ้ นจาก 100 บาทเป็น 300 บาท นั่นเท่ากับว่านักลงทุนต้ องรอให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้ นมากถึง 20-30 ดอลลาร์ต่อออนซ์จึ งจะสามารถขายทำกำไรได้ ดังนั้น YLG จึงแนะนำปรับระยะของการลงทุน อาทิเช่น จากเดิมหากเป็นนักลงทุ นทำกำไรระหว่างวัน อาจปรับเป้าหมายการลงทุนเป็ นระยะสัปดาห์ แต่หากนักลงทุนรับความเสี่ยงได้ น้อยแนะนำรอสถานการณ์ ทองคำในตลาดโลกกลับสู่สภาวะปกติ แล้วจึงกลับเข้ามาลงทุ นในตลาดทองคำอีกครั้ง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ ยงได้มาก รวมไปถึงนักลงทุ นระยะกลางและระยะยาว แนะนำรอจังหวะการอ่อนตั วของราคาแล้วจึงเข้าซื้อสะสม เนื่องจากมีปัจจัยบวกเพิ่มเติ มที่อาจส่งผลหนุนราคาทองคำในปี นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับลดอั ตราดอกเบี้ยทั่วโลกซึ่งจะสร้ างแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ ในระดับต่ำถึงติดลบ ทำให้ต้นทุนการถือครองทองคำอยู่ ในระดับต่ำ นอกจากนี้การอัดฉีดเม็ดเงินเข้ าสู่ระบบเศรษฐกิจในปริ มาณมหาศาลอาจกระตุ้นความวิตกเกี่ ยวกับ “ภาวะเงินเฟ้อ” พร้อมกันนี้เงินสกุลต่างๆยังมี แนวโน้มอ่อนค่า โดยเฉพาะสกุลเงินดอลลาร์อาจมี แนวโน้มอ่อนค่าลงอีกด้วย
“เบื้องต้นหากเกิ ดแรงขายในตลาดทองคำ แต่หากราคาไม่หลุดโซนแนวรับ 1,554 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัวลงเพื่ อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง ทั้งนี้ นักลงทุนอาจพิจารณาเข้าซื้อบริ เวณดังกล่าวเพื่อหวั งทำกำไรจากการดีดตัวขึ้ นทดสอบแนวต้านโซน 1,671-1,703 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่สำคัญ คือ นักลงทุนจัดสรรเงินทุนให้ เหมาะสมกับความเสี่ยงและเงินทุ นของตนเอง ที่สำคัญคือต้องมีวินั ยในการลงทุน ซึ่งจะทำให้นักลงทุนสามารถลงทุ นทองคำได้อย่างประสบความสำเร็จใ นยามที่ตลาดทองคำทั่วโลกเผชิ ญความท้าทายในแบบที่ไม่เคยเกิ ดขึ้นมาก่อน” นางพวรรณ์ กล่าว
นักลงทุนสามารถปรึกษาด้ านการลงทุนทองคำกับ YLG ได้ทางโทรศัพท์ 02-687-9888 รวมถึงสามารถติดตามบทวิเคราะห์ อัพเดทข่าวสารที่ส่งผลต่ อราคาทองคำ ข่าวโปรโมชั่น สัมมนา และข่าวประชาสัมพันธ์ของ YLG ผ่านทางหลากหลายช่องทาง อาทิ www.ylgbullion.co.th และ https://www.facebook.com/ YLGGroup
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น