DEMCO ปักหมุดปี 63 เข้าสู่โหมดการเติบโตรอบใหม่ หลังตุนงานในมือ 2,670 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าลุยประมูลงานภาครั ฐ-เอกชน-Private PPA-งานโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน บิ๊กบอส “พงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์”โชว์ผลงานปี 62 กำไรสุทธิ จากงบเฉพาะกิจการ 83.60 ล้านบาท บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลในอัตรา 0.03 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 11 พฤษภาคม นี้
นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) (DEMCO) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2562 (1 มกราคม-31 ธันวาคม 2562) มีรายได้รวม 2,975 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ จากงบเฉพาะกิจการซึ่งเป็ นฐานในการจ่ายเงินปันผล จำนวน 83.60 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ ในระดับ 14.9% ขณะที่งานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ในปัจจุบันอยู่ที่ 2,670 ล้านบาท
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯมีมติจ่ายปั นผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2562 ในอัตรา 0.03 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 11 พฤษภาคม และกำหนดจ่ายในวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 นี้
“กำไรจากการดำเนินงานยังคงเติ บโตอย่างแข็งแกร่ง และมั่นใจว่าทิศทางในปี 2563 จะเริ่มเข้าสู่โหมดของการเติ บโตรอบใหม่ โดยบริษัทฯมีแผนจะเข้าประมู ลงานมากขึ้นทั้งจากงานรัฐ และเอกชน โดยจะให้ความสำคัญในงานประเภท Private PPA และ งานโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน Community-Based Power Plants ทั้งการลงทุนเอง และ การรับเหมาก่อสร้าง โดยอยู่ระหว่างรอดูความชั ดเจนของภาครัฐ ขณะเดียวกันบริษัทฯยังได้รับปั จจัยบวกจากการขยายการลงทุนเครื อข่ายรองรับ 5G ของเอกชน หลังเสร็จสิ้นการประมูลไปแล้ว ซึ่งจะทำให้งานในมือรอรับรู้ รายได้เพิ่มขึ้น”
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของ DEMCO ในปัจจุบันงานภาครัฐอยู่ที่ 80% และงานเอกชนอยู่ที่ 20%
กรรมการผู้จัดการ DEMCO กล่าวอีกว่า บริษัทฯคาดว่าจะมีงานใหม่ๆ ของภาครัฐออกมาอย่างต่อเนื่อง มูลค่ารวมประมาณ 50,000 ล้านบาท เช่น งานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ งประเทศไทย (กฟผ.) คาดจะมีงานออกมาให้ประมูล 40,000 ล้านบาท , งานจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) คาดจะมีงานออกมา 7,000 ล้านบาท และงานย้ายงานสายไฟฟ้าลงใต้ดิ นประมาณ 2,800 - 3,000 ล้านบาท รวมทั้งยังมีแผนขยายงานรั บเหมาการติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) ภายในประเทศมากขึ้น เพื่อตอบสนองลูกค้าในกลุ่ มโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้ ไฟฟ้าจำนวนมาก โดยตั้งเป้าหมายในปี 2564 จะมีกำลังการติดตั้งรวมเป็น 20 เมกะวัตต์
ส่วนการประมูลงานในกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ เมียนมา ,เวียดนาม, ลาว, กัมพูชา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานประเภทสายส่ ง มูลค่า 2,000 ล้านบาท และในปี 2562 ได้มีการยื่นประมูลไปบางส่วน คาดว่าจะเริ่มเห็นความชั ดเจนในปี 2563
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น